ภายใต้การอำนวยการของ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายชัยวัฒน์ ตุนทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร และ ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้สั่งการให้นายปฐม เอมโอษฐ์ ป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกองร้อยบังคับการและบริการ และชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินการและขับเคลื่อนนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยดำเนินการเข้าตรวจบริเวณห้องแถว ซอยครองครุ-ศรีเมือง หมู่ที่ 6 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
รายละเอียดดังนี้
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับเรื่องร้องเรียน / ร้องทุกข์ จากประชาชนว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า บริเวณซอยครองครุ-ศรีเมือง หมู่ที่ 6 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร และวันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ตามคำสั่งที่ 3883/2566 เรื่อง แต่งตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พบว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจริงซึ่งร้านที่ได้รับการร้องเรียน ตั้งอยู่ ณ อาคารชุด บริเวณซอยครองครุ-ศรีเมือง หมู่ที่ 6 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จากการเข้าดำเนินการของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร พบว่าร้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นอาคารชุดประตูทางเข้าเป็นกระจกปิดด้วยสติ๊กเกอร์ทึบสีฟ้า เมื่อสายลับเปิดประตูเข้าไปภายในร้านพบบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์วางอยู่ในตู้กระจกใสตั้งอยู่บริเวณกลางร้านและพบผู้ชายจำนวน 1 ราย ยืนอยู่หลังตู้กระจกภายในร้าน สายลับจึงทำการขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากผู้ชายคนดังกล่าว เมื่อสายลับได้บุหรี่ไฟฟ้าและชำระเงิน (โดยใช้ธนบัตรฉบับละ 500 บาท ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำรายงานประจำวันไว้แล้วทำการล่อซื้อ) แล้ว จึงได้แจ้ง เจ้าพนักงานชุดจับกุมทราบ เมื่อพนักงานชุดจับกุมทราบว่ามีการจำหน่ายฯ จริง จึงได้เข้าตรวจสอบขณะเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว พบ นายเจษฎากร บุญเจริญ (ทราบชื่อภายหลังการจับกุม) ยืนอยู่หลังตู้กระจกภายในร้าน เจ้าพนักงาน ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน นายเจษฎากร บุญเจริญ แสดงตนเป็นพนักงานขายประจำร้านและเจ้าของร้าน ซึ่งให้การยอมรับว่าที่ร้านมีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าจริง ซึ่งตนเป็นผู้จำหน่าย เจ้าพนักงาน ชุดจับกุมจึงได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ นายเจษฎากร บุญเจริญ พึงพอใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้น ภายในร้าน หลังจากการตรวจค้นพบธนบัตร ที่ใช้ในการล่อซื้ออยู่ที่ช่องเก็บของใต้ตู้โชว์บุหรี่ไฟฟ้า เจ้าพนักงาน ชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดของกลาง และแจ้งข้อกล่าวหา “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา ๒๔๒ และมาตรา 2466 วรรคแรก ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๗” และ “ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” และแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ในเบื้องต้นให้ นายเจษฎากร บุญเจริญ (ผู้ถูกจับกุม) ทราบและเข้าใจดีแล้ว ทั้งนี้ นายเจษฎากร บุญเจริญ (ผู้ถูกจับกุม) ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าพนักงานชุดจับกุม จึงรวบรวมของกลางทั้งหมด พร้อมทั้งควบคุมตัว นายเจษฎากร บุญเจริญ (ผู้ถูกจับกุม) มาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดสมุทรสาคร (กลุ่มงานความมั่นคง) และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร เมืองสมุทรสาครเพื่อดำเนินคดีต่อไป