/home/todaynew/domains/todaynews2017.com/public_html/wp-content/themes/zox-news/amp-single.php on line 77

Warning: Trying to access array offset on value of type bool in /home/todaynew/domains/todaynews2017.com/public_html/wp-content/themes/zox-news/amp-single.php on line 77
" width="36" height="36">

อาชญากรรม

วอนขอกล้องคืน

Published

on

นนทบุรี วงจรปิด น.ศ.วอนชายขับซาเล้งนำกล้องมีภาพถ่ายพ่อแม่ขณะยังมีชีวิตมาคืน​ หลังทำตกกลางถนน​ ถูกซาเล้งเก็บได้​

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ปวริศร์ สันตระกูล ได้โพสตฺคลิปจากกล้องวงจรปิดตามหาชายเก็บของเก่า หลังจากได้เก็บถุงทรัพย์สินที่ตกจากท้ายรถกระบะไป โดยระบุข้อความว่า “ ใครอยู่แถวท่าน้ำนนท์พิบูลสงครามหรือเส้นพระราม5 พบเห็นชาย นิรนามคนนี้รบกวนติดต่อผมหน่อยนะครับ วันที่ 30/6/67 เวลาประมาณ15:00 มีรถกระบะสี่ประตูสีบรอนเทาได้ทำถุงดำใบใหญ่ร่วงตกจากท้ายกระบะ บริเวร3แยกทางไปท่าน้ำนนท์และเลี่ยงเมือง มีพลเมือง ดี 2ท่านและชายนิรนามเก็บจากถนนไปวางข้างฟุตบาตต่อมาชายนิรนาม ที่ขับชาเล้งได้นำของทั้งหมดที่ร่วงขึ้นซาเล้งไปโดยในถุงมีเอกสารสำคัญและสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจ“

วันนี้ (2ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุบริเวณแยกสปีดไทม์ ถ.เลี่ยงเมืองนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี สอบถามนายปวริศร์ สันตระกูล อายุ 23 นักศึกษาปี 3 มหาวิลัยพระจอมเกล้าพระนคร และน.ส.อัญชลิสา แฟนสาวอายุ 21 ปี เจ้าของโพสต์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 15.00 น. ตนและแฟนสาวพร้อมคุณพ่อได้ช่วยกันเก็บของขนของย้ายห้องย่านถ.พิบูลสงคราม ใส่รถกระบะย้ายไปอยู่ห้องเช่าย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยคุณพ่อตนเป็นคนขับรถกระบะ ส่วนตนขับรถจยย. โดยตนและแฟนขาวได้ขับนำคุณพ่อไปก่อนเพื่อไปเปิดห้องเช่าใหม่ แล้วได้เปิด GPS ให้คุณพ่อขับตามมาเพราะคุณพ่อไม่รู้ทาง ซึ่งขณะที่กำลังเดินทางปรากฎว่าคุณพ่อหลงทาง ได้ขับมาบริเวณจุดเกิดเหตุก็คือแยกสปีดไทม์ ได้ทำถุงทรัพย์สินที่อยู่ท้ายกระบะตกอยู่ แต่ไม่รู้ตัวจึงขับไปถึงที่หมมายตามปกติ ปรากฎว่าขณะถึงที่พักตนและแฟนสาวได้ตรวจสอบทรัพย์สินหลังรถกระบะพบว่ามีถุงดำที่ใส่ทรัพย์สินของตนได้หายไป 1 ถุง ปรากฎว่ามีทรัพย์สินที่อยู่ในถุงหายไป คือ 1.กล้องฟูจิ ราคาประมาณ 20,000 บาท 2. อุปกรณ์เครื่องมือช่าง 3. บัตรเอกสารทำงานต่างๆ 4. เสื้อผ้าและกระเป๋าสะพาย รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท หลังจากช่วยกันหาแล้วไม่พบ จึงรีบช่วยกันออกตามหาตามเส้นทางที่ได้เดินทางมาห้องพักไปโรงพักทั้งหมด 4 โรงพัก ใช้เวลาประมาณ 2 วัน ในการหาหลักฐาน โดยตนและแฟนได้ตามหาจนทั่วผ่านตรงไหนที่มีถุงขยะสีดำ ตนได้ใช้มีดกรีดดูเพื่อตามหาทรัพย์สินของตน จนกระทั่งวันเมื่อวานวันที่ 1 ก.ค.67 ตนทราบว่าพื้นที่เกิดเหตุที่รับผิดชอบคือสภ.เมืองนนทบุรี จึงไปดำเนินการแจ้งความแล้วทำเรื่องยื่นหนังสือขอดูกล้องวงจรปิดกับทางเทศบาลนครนนทบุรี จึงพบหลักฐานวันที่ 30 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 15.00 น. พ่อตนได้ทำของหล่นบริเวณกลางถนนบริเวณแยกสปีดไทม์คาดเกิดจากการเปลี่ยนเกียร์ แล้วรถกระชาก ต่อมาผ่านไปไม่ถึง 1 นาที จากนั้นได้มีชายอายุ 40 ปี สวมหมวกไหมพรม ใส่เสื้อเชิ้ตลายพราง กางเกงขายาวสีดำ ขับรถซาเล้งสีแดง ได้ขับมาจอดบริเวณเลนขวาของถนน จากนั้นได้เดินลงจากรถซาเล้งแล้วเดินไปเก็บถุงดำ และทรัพย์สินที่ตกอยู่บริเวณถนน จากนั้นก็ได้มีพลเมืองดีเป็นผู้หญิง 2 คน ขับขี่รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า 1กจ235นนทบุรี มาบริเวณจุดเกิดเหตุได้ช่วยเก็บยกของทรัพย์สินที่ตกอยู่ถนนไว้ริมฟุตบาต ต่อมาพลเมืองดีทั้ง 2 รายได้ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุ ส่วนชายขับซาเล้งได้รีบวิ่งข้ามถนนไปเอารถซาเล้งขับมายกถุงดำทรัพย์สินของตนขึ้นรถแล้วขับออกไปมุ่งหน้าไปยังถ.เลี่ยงเมืองนนท์ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้

วันนี้จึงนำเรื่องมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงในการตามหาคนขับซาเล้งดังกล่าวให้นำทรัพย์สินมาคืน เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่าทางจิตใจที่ไม่สามารถใช้เงินมาซื้อได้แล้ว โดยภายในถุงจะมีกล้องดิจิตอลซึ่งทางคุณพ่อได้ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ซึ่งภายในกล้องมีการถ่ายภาพครอบครัวคุณพ่อและคุณแม่เก็บไว้จำนวนมากตอนที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ซึ่งตนจะเก็บไว้ดู เพราะแม่ตนได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพ่อได้แยกกันอยู่กับตนทำงานอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งภาพในกล้องตนยังไม่ได้โหลดไฟล์ภาพมา หรือล้างรูปเก็บไว้ จึงอยากฝากถึงเจ้าของรถซาเล้งที่เก็บของตนไปว่า อยากให้นำของมาคืนตนจะไม่เอาเรื่องใดๆทั้งสิ้น กล้องที่หายไปมันมีมูลค่าก็จริง แต่ตนสามารถเก็บเงินซื้อได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ซื้อไม่ได้คือภาพที่มีคุณค่าทางจิตใต หากคนเก็บได้นำไปขายทางร้านที่รับซื้ออาจจะลบภาพไปทั้งหมด ทั้งนี้จึงอยากให้รีบนำมาคืนติดต่อมาที่ตนหรือไปที่สภ.เมืองนนทบุรี และสุดท้ายฝากถึงตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ให้ช่วยติดตามตัวรถซาเล้งมาดำเนินการตนอยากได้ของคืนจริงๆ คาดว่าน่าจะเป็นคนพื้นที่อยู่ในละแวกนี้

ทางด้านนายเอ​ (นามสมมุติ)ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า​ รถซาเล้งคันนี้เห็นเป็นประจำเพราะจำได้คนขับชอบใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า​ ลักษณะ​ ดูไม่หน้าไว้ใจ​ ชายคนนี้ขับขี่มาเป็นประจำ​ แต่จะขับมาช่วงเย็น และช่วงค่ำ มาลื้อขยะ​เกลื่อนไปหมด​ พอน้องนำภาพมาให้ดูจำได้ทันที​ เพราะคนแถวนี้ก็มักจะจับตามองซาเล้งคันนี้เพราะห่วงว่าจะถูก​ ขโมยของ

หมายเหตุเบลอหน้านายเอ

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี


Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

โพสต์ติดเทรนด์

Exit mobile version