นนทบุรี โอละพ่อ จัดงานแฟร์ในหมู่บ้านดัง วอนสื่อตรวจสอบความจริงทั้งสองด้านก่อนนำเสนอ
หลังถูกสั่งปิดเดือดร้อนพ่อค้าแม่ค้า
วันที่ 7 ก.ค.67 เวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านบัวทองธานี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากกรณีที่มีชาวบ้านร้องทุกข์ว่ามีการจัดงานบัวทองธานีแฟร์ ตั้งแต่วันที่ 4-10 กรกฎาคม 2567 ภายในงานมีทั้งคอนเสิร์ต บาร์เบียร์ ทั้งยิงเป้า และปาโป่ง ส่งเสียงดังลั่นสนั่นทั้งหมู่บ้าน ซึ่งจัดงานผ่านไปแล้ว 2 วัน 2 คืน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากทั้งคนชรา และผู้ป่วย ไม่ได้หลับไม่ได้นอน จัดกันกลางชุมชนหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านในหมู่บ้านร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆเป็นจำนวนมาก
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงกับ น.ส.กาญจนา สุภารมย์ หรือ สท.แดง ถึงเรื่องราวดังกล่าวและเสียงจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณที่จัดงานรวมไปถึงเจ้าของร้านค้าต่างๆที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
นาง กาญจนา หรือ สท.แดง กล่าวว่า จากการที่ก่อนหน้านี้ที่มีสื่อสำนักหนึ่งไปลงข่าวว่ามีการจัดงานแฟร์ขึ้นในหมู่บ้าน มีการจัดแสดงคอนเสิร์ต บาร์เบียร์และมีร้านยิงเป้า ปาโป่ง ที่เป็นลักษณะของการพนัน และได้มีการกล่าวพาดพิงไปถึงตัวของนักการเมืองท้องถิ่นที่พยายามจะมาเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตร.ในพื้นที่ ถึงจะไม่เอ่ยชื่อแต่คนในพื้นที่เขารู้ว่านักข่าวที่เอาข่าวไปลงกล่าวถึงตน ซึ่งตนขอชี้แจงว่าตนเป็นเพียงคนดูแลความสงบเรียบร้อยภายในงานเท่านั้นไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร เรื่องจัดงานตนเคยเข้าไปคุยกับฝ่ายปกครองและอำเภอแล้ว เขาก็บอกว่างานเล็กๆไม่ต้องขอใบอนุญาต แต่อย่าใช้เสียงดังเกินไป ซึ่งตนก็คอยควบคุมดูแลตรงนี้ไม่ให้เสียงดังเกินไปและให้หยุดใช้เสียงเวลา 23.00 น.ตรงนี้ก็ยอมรับก็อาจจะมีบางบ้านที่ได้รับผลกระทบแต่คงไม่มากเพราะก่อนหน้านี้ได้มีการทำประชาพิจารณ์แล้วส่วนใหญ่ก็อยากให้จัด เรื่องที่บอกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่และจับเจ้าของร้านปาเป้าปาโป่งไปและพาดพิงว่าตนพยายามจะเข้าไปเคลียร์แต่เคลียร์ไม่ได้อันนี้ไม่เป็นความจริง ตำรวจเข้ามาดูทุกวันอยู่แล้วและตนก็พอจะรู้จักอยู่จึงเข้าไปคุยตามปกติ ตนจะเข้าไปเคลียร์อะไรได้ ตำรวจเขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้ดีอยู่แล้ว การที่สื่อนำข้อมูลที่ไม่ชัดเจนและไม่ถูกต้องยังไม่ได้ตรวจสอบไปลงแบบนี้ทำให้ตนเสียหาย ส่วนเรื่องการจัดงานแบบนี้จะไปขัดผลประโยชน์ของใครตนไม่รู้ แต่แบบนี้เหมือนแกล้งกันมากกว่า หลังจากเกิดเรื่องก็ถูกเจ้าของที่เขาสั่งให้หยุดทั้งหมดแล้ว ซึ่งในวันนี้ตนท้าให้นักข่าวเข้าไปดูเลย พื้นที่แค่นี้จะมีร้านเปิดถึง10-20 ร้านหรอ แล้วจริงๆก็ไม่มีนะร้านปาโป่ง การพนันที่ผิดกฏหมาย ถ้ามีจริงจะเก็บหนีทันหรอเมื่อเช้าก็มีนักข่าวเข้ามาดูแล้ว พื้นที่จัดงานเล็กๆ ร้านค้ามีประมาณ 10 กว่าร้านตอนนี้ก็อยู่สภาพเดิม ก็อยากฝากไปถึงนักข่าวที่เอาข่าวไปลงควรตรวจสอบให้ดีก่อน ทำแบบนี้มันกระทบไปหมดทั้งร้านค้าที่เขาลงทุนซื้อของไปแล้วต้องมาหยุดขายของ ส่วนจุดประสงค์ในการจัดงานก็เพื่ออยากให้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนและจะปรับปรุงพื้นที่ที่เป็นลานกีฬาตรงนี้ให้ชาวบ้านมาใช้ลานกีฬาได้อย่างเต็มที่ หากการจัดงานครั้งนี้กระทบชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้เดือดร้อนในตนก็ต้องขอโทษด้วย.
น.ส.นา (สงวนชื่อนามสกุล) สวมเสื้อสีขาวใส้หมวก กล่าวว่า บ้านตนอยู่ใกล้กับเวทีและเครื่องเสียง แต่ก็ไม่ได้เสียงดังมากมายอย่างที่เป็นข่าวออกไป ถามว่าได้รับผลกระทบบ้างไหม ก็มีบ้างแต่ไม่ได้กระทบถึงขั้นอยู่ไม่ได้ นอนไม่ได้และห้าทุ่มเขาก็ปิดเครื่องเสียงแล้ว อยู่มาเป็น10ปีแล้ว เพิ่งจะมีการจัดงานแบบนี้ตนก็มองว่าดีนะ เพราะพ่อค้าแใค้าจะได้มาขายของกัน แต่งานก็ไม่ได้ใหญ่โตแบบที่ข่าวเอาไปลงนะ มีร้านค้าแค่10กว่าร้านเอง คนเดินงานก็ไม่เยอะเท่าไร ขนาดวันนี้วันเสาร์คนยังน้อยเลย เพราะพื้นที่นี้เป็นหมู่บ้านคนที่มาเดินเที่ยวก็เป็นคนในหมู่บ้าน คนนอกมาเดินน้อยมากเพราะส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยรู้กัน
ต่อมาได้มีการไปถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงแล้ว (ไม่ประสงค์ให้สัมภาษณ์) ได้รับการเปิดเผยข้อมูลว่า การจัดงานในครั้งนี้ตนไม่เห็นว่าจะกระทบตรงไหน บ้านตนก็อยู่ด้านหน้าที่เครื่องเสียงหันไปตรงกับบ้านพอดี เรื่องเสียงก็มีบ้างแต่ไม่ได้ดังถึงขนาดกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและงานก็จัดแค่ 7 วันเอง ไม่ได้จัดเป็นประจำทุกเดือน ส่วนตัวตนมองว่าการจัดงานแบบนี้ดี เพราะไม่ได้จัดแบบนี้มาเป็น10 ปีแล้ว ตนก็ยังเดินออกมาเที่ยวงานเดินซื้อของกินอยู่เลยกลับมองว่าเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน เป็นการทำให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในชุมชนอีกด้วย
ด้าน น.ส.เครือแก้ว คล่องใจ หรือพี่แก้ว อายุ 43 ปี เจ้าของร้านขายขนม กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวออกไปมันมีบางอย่างที่เกินจริงอยู่บ้าง คนที่อยู่ที่งานก็จะเห็นว่ามันมีอยู่แค่นี้ ส่วนเรื่องเสียงพอสี่ทุ่มเขาก็จะเบาเครื่องเสียง เมื่อวานตำรวจมาเขาก็เบาให้นะ แต่เราไม่รู้ว่าคนที่ร้องเรียนเขาไปสื่อกับเพจข่าวยังไง มันก็เลยทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต แล้วก็ทำให้เรื่องมันถึงโครงการที่นี่เขาก็ทำให้ร้านค้าต้องปิดทุกร้าน แต่วันนี้เราก็แค่อยากจะขอขายก่อนอีก 1 วันเพื่อที่จะเก็บเงินอีกซักหน่อย ส่วนเรื่องการพนันอย่างที่พูดไปมันเกินความจริงซึ่งเขาบอกว่ามีประมาณ 10-20 ร้าน ถามว่าถ้ามี10-20 ร้านจริง เขาจะเก็บร้านกันทันหรอ เช้านี้มีนักข่าวมาลงพื้นที่ก็จะเห็นว่ามันมีแค่ร้านเดียวจริงๆซึ่งมันก็ไม่ได้เชิงการพนันเลย ตอนนี้ผลกระทบมาตกอยู่ที่พ่อค้าแม่ค้าหมด เพราะเสียเงินลงทุนซื้อของมาตุนเอาไง้เตรียมขายของแล้ว และมนส่วนเรื่องค่าที่ที่เขาบอกว่าเก็บค่าเช่าแผงละ 3-4พันบาท อันนี้ก็ไม่จริง งานมีแค่7วันเท่านั้นใครจะยอมเสียค่าเช่าแผงขนาดนั้น อย่างตนก็เสียแค่ 300บาทต่อวันเท่านั้นเอง.
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี
