/home/todaynew/domains/todaynews2017.com/public_html/wp-content/themes/zox-news/amp-single.php on line 77

Warning: Trying to access array offset on value of type bool in /home/todaynew/domains/todaynews2017.com/public_html/wp-content/themes/zox-news/amp-single.php on line 77
" width="36" height="36">

อาชญากรรม

ตำรวจ รวบกุ๊ย รุมเตะเด็ก ส่งศาล ตั้งข้อหาหนักได้แล้ว

Published

on

นนทบุรี วงจรปิด ตร.รวบแล้ว โจ๋รุมเตะนร.สลบ ส่งศาลจ.นนทบุรี ตร.ตั้งข้อหาหนัก

 เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 67 ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ร.ต.ท.ปิยวัฒน์ นามมะ รองสว. (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้เรียกพบนายประธานศักดิ์ จำเริญ อายุ 44 ปี และน.ส.สุมาลี ชราชิต อายุ 46 ปี พ่อและแม่ของนายจิรภัทร จำเริญ หรือนายเฟิร์ส อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นม.5 รร.อนุราชประสิทธิ์ ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจนหมดสติ และน.ส.เบญจวรรณ ปุยภิรมย์ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายเจษฎา จ่าชัยภูมิ หรือนายเดี่ยว อายุ 18 ปี ผู้ก่อเหตุ (ใส่เสื้อสีแดงในคลิปวงจรปิด) มาสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับนายเจษฎา หรือนายเดี่ยว (ผู้ก่อเหตุ) ว่า ”ร่วมกันทำร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนจะส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี , ประธาน กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้“ ได้เข้ามาเป็นคนกลางเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพ่อและแม่ของนายจิรภัทร หรือนายเฟิร์ส ผู้เสียหาย ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ได้รับความยุติธรรม

 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 67 เวลาประมาณ 17.15 น. บริเวณถนนริมคลอง ทางไปตลาดฐานเพชร (เลี่ยงเมืองนนท์) ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายกฤติน สามารถ หรือนายมาร์ค (คนขับ) นายจิรภัทร จำเริญ หรือนายเฟิร์ส (คนซ้อนที่ 1) และนายบุญญาศักดิ์ แก้วคมขำ หรือนายจูมง (คนซ้อนที่ 2) ได้ขับขี่รถจยย.ออกจากโรงเรียนเพื่อเดินทางกลับบ้าน ได้พบกับกลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 8 คน ดักทำร้ายระหว่างทาง ทำให้ได้รับบาดเจ็บ โดยนายจิรภัทร หรือนายเฟิร์ส ถูกเตะจนสลบไม่ได้สติ ก่อนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ขับขี่รถจยย.หลบหนีไป ผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่บริเวณนั้นได้ให้การช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเข้ามาตรวจสอบ

 ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 17.02 น. จับภาพนายกฤติน สามารถ หรือนายมาร์ค (คนขับ) นายจิรภัทร จำเริญ หรือนายเฟิร์ส (คนซ้อนที่ 1) และนายบุญญาศักดิ์ แก้วคมขำ หรือนายจูมง (คนซ้อนที่ 2) ได้ขับขี่รถจยย. ออกจากโรงเรียนเพื่อเดินทางกลับบ้าน จากนั้นนายเดี่ยว กับนายเจได ผู้ก่อเหตุ ได้ขับขี่รถจยย.มาตีคู่ และมีวัยรุ่นอีก 2 คน ทราบชื่อคนขับคือนายน็อต ส่วนคนซ้อนไม่ทราบชื่อ ขับขี่รถจยย.ตามหลังมา และจอด ก่อน 1 ใน 2 คนจะตะโกนว่า “ควยอะไรไอ้สัตว์” และวิ่งไล่ตามนายจูมง ที่วิ่งล่อไปอีกทาง ก่อนจะกลับมาเอารถจยย.และขี่ไล่ตามนายจูมงไป

 ภาพวงจรปิดอีกมุม เวลา 17.17 น. จับภาพนายเดี่ยว ขณะกำลังทำร้ายนายจิรภัทร หรือนายเฟิร์ส ซึ่งนอนอยู่ที่พื้น โดยเตะเข้าไปบริเวณหลัง 2 ครั้ง ซึ่งนายมาร์คได้ยืนดูไม่กล้าช่วยเพราะนายเดี่ยวถือมีดและขู่จะแทง (กล้องวงจรปิดจับภาพนายเดี่ยวถือมีดในมือ)  จากนั้นก็มีพลเมืองดีเข้ามาให้การช่วยเหลือ ก่อนนายเดี่ยวและนายเจไดจะขี่รถจยย.หลบหนีไป

 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุซึ่งปรากฏอยู่ในคลิป เป็นคนที่ทำร้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ จับกุมตัวนายเดี่ยวได้ 1 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามตัวเพื่อดำเนินคดีให้ครบทั้งหมด อยากให้ผู้ปกครองของน้องผู้เสียหายเฝ้าดูจากอาการบาดเจ็บของลูกก่อน และดูว่าใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ และจะสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ส่วนจะบาดเจ็บธรรมดาหรือสาหัส ต้องรอผลการวินิจฉัยของแพทย์ ตอนนี้อยู่ระหว่างเฝ้าดูอาการ

 ดร.แก้ว กล่าวว่า วันนี้ผู้ปกครองของผู้เสียหาย ได้ขอความช่วยเหลือกับตน ซึ่งตนเป็นประธานกต.ตร.อยู่ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จึงได้มาช่วยตำรวจประสานงานกับผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย ตนมองว่าเป็นปัญหาสังคมที่ต้องรีบแก้ไข ทางผู้ปกครองจะบอกว่าลูกตัวเองไม่ปกติ มันไม่สามารถไปทำร้ายคนอื่นตามใจได้เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย ตนในฐานะประธานกต.ตร.ภาคประชาชน อยากฝากทุกฝ่ายให้ระมัดระวังการดูแลบุตรหลานในการปกครองของท่าน พยายามใกล้ชิดกับลูกหลาน จะได้ไม่ไปทำผิด ถ้ามีอะไรไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถประสานมาที่ตนหรือที่สภ.รัตนาธิเบศร์ได้

 น.ส.เบญจวรรณ (เสื้อสีเขียว) แม่นายเดี่ยว ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจเห็นลูกตัวเองทำร้ายคนอื่น มีนิสัยก้าวร้าวขนาดนี้ ปกติลูกจะโดนกระทำ ลูกของตนเป็นคนสมาธิสั้น ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ เป็นคนใจร้อน เคยไปหาหมอสุขภาพจิตแล้ว หมอบอกว่าให้คอยควบคุมอารมณ์ ตนมองว่าลูกตัวเองทำเกินไป ตนยินดีให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย พร้อมที่จะเยียวยาคู่กรณีที่ถูกลูกของตนก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ตนเข้าใจพ่อแม่คู่กรณีไม่อยากให้ใครมาทำร้ายลูกตัวเอง อยากขอโทษที่ลูกชายของตนไปทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 

 นายประธานศักดิ์ และน.ส.สุมาลี พ่อแม่ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตอนนี้ตนรู้สึกสบายใจขึ้นว่าคดีไม่ได้หยุดแค่ตรงนี้ มีการดำเนินคดีถึงที่สุด ต้องขอขอบคุณท่านผู้กำกับสภ.รัตนาธิเบศร์ และดร.แก้ว แต่ตนติดใจที่แม่ของผู้ก่อเหตุบอกว่าลูกของเขามีใครมาสะกิดต่อมจะมีอาการแบบนี้ ไปทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ตนก็เข้าใจเพราะว่าแม่ไม่ได้เป็นคนทำ คนที่ทำคือลูก หลังเกิดเหตุพ่อกับแม่ไม่กล้าดูคลิป มันรุนแรงเกินไป ความรู้สึกของพ่อแม่ลูกโดนแบบนี้ไม่มีใครทนได้ ตอนนี้ทางครอบครัวของตนรู้สึกดีใจมาก กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม กลัวว่าเรื่องจะเงียบ ตอนนี้อาการของลูกตนไม่ตอบสนอง แค่ลืมตายังลืมไม่ได้ หมอบอกให้ดูแลอย่างใกล้ชิด ตอนนี้รักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน คุณหมอเอ็กซเรย์ดูแล้วมีเลือดไหลอยู่ในสมอง ประเมินว่ากว่าจะฟื้นน่าจะประมาณ 1 อาทิตย์ ตนเห็นลูกโดนมัดแขนมัดขา ดิ้นทุรนทุราย ด้วยความเจ็บปวดรู้สึกแย่มาก ปกติเคยพูดหยอกล้อเล่นกับลูก พยายามไปขอพรทุกที่เพื่อให้ลูกหายกลับมาเป็นปกติ

 ด้านนายกฤติน หรือนายมาร์ค ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมนายจิรภัทร หรือนายเฟิร์ส ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ก่อนจะให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า วันที่เกิดเหตุตอนเย็นหลังเลิกเรียนได้ขับรถมากับเฟิร์ส และจูมง ทะลุผ่านด้านหลังตลาดฐานเพชร มีกลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่หน้าร้านตรงริมคลอง ที่รถขับสวนกันไม่ได้ จะไปได้ทีละ 1 คัน ตนจะขับเข้าไปแต่มีรถสวนออกมาตนเลยจอดรอ ให้รถขับออกมาก่อน พอรถคันที่สวนออกมาตนจึงเข้าไปได้ครึ่งทาง รถคู่กรณีขับมาชนท้ายรถแล้วเอามีดจี้บอกให้ตนจอดรถ ตนไม่จอดขับไปเรื่อยๆจนถึงปากทาง รถคู่กรณีขับมาตีคู่แล้วถีบรถตนจนรถล้ม แล้ววิ่งเข้ามาต่อย แต่ไม่โดน ตอนแรกมากันแค่ 2 คน ต่อยไม่โดนเพราะหลบได้ทัน หันไปอีกทีเห็นเฟิร์สเพื่อนของตนล้มลง ทางคู่กรณีทั้ง 2 คน เลยวิ่งไปรุมกระทืบเฟิร์ส ส่วนเพื่อนคนที่ชื่อจูมง วิ่งหนีไปอีกทางที่เกิดเหตุเหลือแค่ตนกับเฟิร์ส ที่ตนยืนดูนายเดี่ยวเตะเฟิร์สเนื่องจากเอามีดขู่จะแทง ตนเลยต้องหยุดชะงักไม่ได้เข้าไปช่วย ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุเพราะอะไร สงสารเพื่อน ทำไมต้องมาโดนอะไรแบบนี้ อยากให้ผู้ก่อเหตุเข้ามามอบตัว เท่าที่ดูตามคลิปคู่กรณีมีทั้งหมด 4 คน

 เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาตัวผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มเติม มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี


Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

โพสต์ติดเทรนด์

Exit mobile version