นนทบุรี ตำรวจนำตัวเจ๊นัท ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามกับสื่อมวลชน ขณะเพื่อนนักศึกษาและเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับหอพักเผย ดีใจตำรวจจับคนร้ายได้ไว
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สภ. รัตนาธิเบศร์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้เข้าไปพูดคุยกับนายณัฐวุฒิ หรือ เจ๊นัท อายุ 21 ปี
ผู้ต้องหาที่ฆ่าเผา นายวิศว แต้มประสิทธิ์ หรือนายซัน นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่ บ้านเกิดอ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์เมื่อคืนที่ผ่านมาและได้นำตัวมาฝากขังไว้ที่สภ.รัตนาธิเบศร์
ในห้องควบคุมผู้ต้องหา ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเวลา 10.00 น. จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนคดี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีได้เข้ามาเก็บ DNA ที่กระพุ้งแก้มรวมทั้งเส้นผม ของเจนัสสาวสองเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับเส้นผมที่พบในมือของผู้ตาย โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที ก่อนเตรียมนำตัวเจ๊นัด ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 9 ส.ค.67 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษภ.จว.นนทบุรี (พยัคฆ์นนท์ 66) นำตัวนายณัฐวุฒิ หรือเจ๊นัท อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ฆ่าเผานายวิศว แต้มประสิทธิ์ หรือนายซัน นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พร้อมของกลางรถจยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาวแดง ทะเบียน ฬทล461 กทม. ทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดก่อเหตุ ที่ห้องพักชั้น 6 เลขที่ 611 หอพักแห่งหนึ่ง ซอยประชาชื่นนนทบุรี 8 แยก 1 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี
ขณะตำรวจควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ หรือเจ๊นัท สวมหมวกกันน็อค ขึ้นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงมูลเหตุที่เกิดเหตุ แต่ทางเจ๊นัทได้ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด การทำแผนประกอบคำรับสภาพในครั้งนี้ทางหอพักไม่สะดวกให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปข้างบนถ่ายภาพ โดยใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 20 นาที ก่อนควบคุมตัวเจ๊นัดสาว 2 รายนี้ กับ สภ.รัตนาธิเบศร์
ด้านน้องเมย์ นามสมมุติ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันกับน้องซันผู้เสียชีวิตเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนก่อเหตุได้ ตนดูข่าวตั้งแต่วันแรกรู้สึกเศร้าและเสียใจสงสารน้องเขามาก ไม่คิดว่า คนร้ายจะโหดเหี้ยมและลงมือได้ขนาดนี้ โดยส่วนตัวไม่ได้เรียนห้องเดียวกันหรือคณะเดียวกันกับผู้ตายแต่ว่าเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็ดีใจที่เขาถูกจับกุมได้แล้ว
คุณน้อยนามสมมุติอายุ 45 ปีเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับหอพัก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนเองตกใจมากคิดว่าไฟจะไหม้มาถึงบ้านแล้ว โชคดีแล้วก็ต้องขอบคุณ คนที่ในหอพักที่ช่วยกันดับไฟได้เร็ว ทีแรกคิดว่าเป็นการเกิดเพลิงไหม้ธรรมดามาทราบที่หลังว่ามีการฆาตกรรม ตกใจมากไม่คิดว่าคนร้ายจะจิตใจโหดเห*้ยมขนาดนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมาไล่กล้องวงจรปิดในซอยและทำงานได้ว่องไวมาก จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ โดยส่วนตัวเจอน้องเขาประจำแต่ไม่ได้พูดคุยกัน ไม่คิด ว่าจะประสบชะตากรรมโหดร้ายเช่นนี้ หลังเกิดเหตุคนในซอยก็อยู่กันยังหวาดกลัว ตอนอยู่ที่นี่มากกว่า 20 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์ แบบนี้เลย ขอทราบว่าตำรวจจับคนได้ได้ในวันนี้ก็รู้สึกโล่งใจและดีใจ
ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์
เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมมา ครั้งก่อนก่อเหตุและหลังก่อเหตุ รายรับสารภาพว่าได้เอากองผ้านวมสูงบนร่างของ ผู้เสียชีวิตแล้วจุดไฟเผา ส่วนปมในการก่อเหตุ เป็นเรื่องเงิน ผู้ต้องหาเผื่อว่า มีปัญหาเรื่องเงินกับผู้ตายที่มีการหยิบยืมกันไปก่อนหน้านี้ โดยผู้ต้องหาได้มีการพูดคุยกับผู้ตาย แล้วไม่ลงตัว เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และเปลี่ยนเป็น 5,000 บาท หลังจากนั้นมีเรื่องทะเลาะกัน เดี๋ยวผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ใช้มีดที่อยู่ภายในห้อง ก่อเหตุเสร็จได้ใช้มีดโยนลงบนกองไฟ แล้วหลบหนีหลังจากนั้นก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาหลบหนีไปที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ ผู้ต้องหายอมรับว่ารู้จักกับผู้ตายผ่านทาง facebook เมื่อต้นปีที่ผ่านมาและมีการติดต่อกันมาโดยตลอด แล้ววันที่เกิดเหตุคือวันที่นัดเจอกันครั้งแรก ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา ไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ผู้ก่อเหตุให้การว่า ผู้ตายได้นัดหมายมาที่ห้องพัก ผู้ก่อเหตุจึง เดินทางจากโรงแรม ย่านพญาไทมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ จากนั้นคิดว่าห้องพักของผู้ตายอยู่ใกล้จึงเดินทางมาจนถึงซอยชินเขตโดยดู Map มาเรื่อยๆ พอเห็นว่าเริ่มไกลแล้วเห็นว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพากุญแจไว้จึงได้ขับขี่มา ที่หอพัก ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ก่อเหตุ ขโมยไปเท่าที่รับสารภาพและตรวจสอบ มีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา วางเพลิงเผาทรัพย์ อำพรางศพ ลักทรัพย์ ส่วนลักษณะอาการของผู้ต้องหา เบื้องต้นมีอาการเครียด
ส่วนการหลบหนีหลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาได้เดินทางไปที่จังหวัด เพชรบูรณ์ หลังจากนั้นถึงย้อนกลับมาที่จังหวัดนครสวรรค์แต่ก่อนหน้าที่จะมาก่อเหตุผู้ต้องหาได้เดินทางไปเที่ยวที่เชียงใหม่ แล้วเดินทางกลับมาที่กรุงเทพฯวันที่ 5 เข้าพักที่โรงแรม แห่งหนึ่งย่านพญาไทแล้วเช็คเอาท์ออกมาจากนั้นก็เดินทางมาหาผู้ต้องหาในวันที่ 7 วันที่เกิดเหตุนั่นเอง จากผลการชันสูตรศพ มีรอยบาดแผลจากการทดแทน มีควันไฟในปอด มีที่ใช้ในการประมูล เป็นมีดที่อยู่ในห้องอยู่แล้ว หลังจากแทงแล้วก็โยนมืดในกองไฟ แต่ยังไม่พบมีดต้องให้ความสืบสวน เท่าที่ดูผู้เสียชีวิตเสียชีวิตแล้วถึงได้เผา โดยในวันนี้เวลา 13.00 น. ทางตำรวจจะนำตัวเจ๊นัท ผู้ต้องหา ส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี