เจ้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ แรงงานต่างด้าวรวมตัวกันที่ถ้ำเขาตะเกียบน่าสงสัย

ชุมพร – เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่ถ้ำเขาเกรียบที่มารวมตัวกันจำนวนมาก
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
ชุมพร – เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจสอบแรงงานต่างด้าวพื้นที่หลังสวน แรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาต จึงได้หลบหนี้ไปซ่อนตัว ที่ถ้ำเขาเกรียบกันจำนวนมาก

วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ กอรมนจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด 414 เจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดชุมพร ลงพื้นที่วัดถ้ำเขาเกรียบ ม.18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพรหลังจากจากพลเมืองดี แจ้งว่ามี แรงงานต่างด้าวมารวมตัวที่นี้เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงบัตรเพื่อขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง จากการตรวจสอบปรากฏ ว่าคนต่างด้าวไม่สามารถแสดงหนังสือเดินทางได้ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอน ตามมาตรา ๘๑ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่ง ได้เข้าตรวจสอบที่มารวมตัวกันเป็นจำนวนมากทำการเรียกตรวจสอบได้ จำนวน 14 ราย และมีการหลบหนีขึ้นไปบนเขาอีกจำนวน หนึ่งและแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกติดตาม จึงได้ควบคุมตัวทั้ง 14 ราย ไปสอบปากคำที่ สภ.หลังสวน
ตามคำสั่งจังหวัดชุมพรที่ ๔๑๐๗๕๖๔ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและนายจ้าง/สถานประกอบการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (CoVD – ๑๙) ลงวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าวข้างตัน ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบ จับกุม ผู้กระทำความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่๒) พ.ศ. ๒๕๑ และพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
ในการควบคุมตัวผู้ถูกจับ เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมได้ทำการบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวผู้ถูกจับในชั้นจับกุมจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ตามมาตรา๒๒ วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.๒๕๖๕
ผู้จับกุมไม่ได้กระทำการใดๆ อันเป็นการ ทรบาน การทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์หรือกระทำให้บุคคลสูญหายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ผู้จับกุม ได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว ตามมาตรา ๒๒ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการ ทรบาน และการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.๒๕๖๕ ไปยัง สำนักงานการสอบสวน

ในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยไม่ได้บังคับ ขู่เข็ญ มิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้หนึ่งผู้ใดสูญหาย เสียหาย หรือเสื่อมค่าแต่ประการใด และมิได้ทำร้ายร่างกายผู้หนึ่งผู้ใดให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และมิได้นำเอาทรัพย์สินของผู้ใดมาเป็นประโยชน์แก่ตน หรือผู้อื่นแต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิขณะจับกุมให้ผู้ถูกจับกุมทราบแล้ว และเจ้าพนักงานได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับกุมให้กับผู้ถูกจับกุททราบและเข้าใจดีแล้ว