อาชญากรรม วางแผน รับสถานการณ์น้ำ Published 2 เดือน ago on ตุลาคม 1, 2024 By admin3 apirat ปทุมธานี บิ๊กแจ๊สเชิญผู้เชี่ยวชาญปรึกษาเตรียมรับพายุน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนเสี่ยงท่วมปทุมและจังหวัดใกล้เคียงวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่มูลนิธิ มงคล-จงกล ธูปกระจ่าง ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เชิญผู้เชี่ยวชาญปรึกษาหารือเตรียมรับน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนเข้าท่วมปทุมธานี และเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำ ที่สถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากมวลน้ำเหนือที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทปล่อยสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และน้ำทะเลหนุนสูงจะกระทบบ้านเรือนที่อาศัยริมน้ำเจ้าพระยาทางจังหวัดปทุมธานีและใกล้เคียงโดยมี รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ , นายสรชัด สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 1 พรรคชาติไทย , ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต เจ้าของพื้นที่ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา , นายพีระศักดิ์ พงษ์พุฒิพัษฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านปทุม เจ้าของพื้นที่ต่ำสุดของจังหวัดปทุมธานี ร่วมประชุมหารือแนวทางป้องกันน้ำท่วมจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมวลน้ำเหนือที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทปล่อยสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และน้ำทะเลหนุนสูงกระทบบ้านเรือนที่อาศัยริมน้ำเจ้าพระยานายสรชัด สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี เขต1 กล่าวว่า อดีตในปี 54 เดือนสิงหาคมเดือนเดียวพายุเข้า 5 ลูก และกลัวน้ำท่วมกรุงเทพจึงไม่ให้น้ำผ่าน จึงกักน้ำไว้ด้านบน สะสมน้ำไว้เยอะเมื่อพายุเข้าอีกก็จบจึงเกิดน้ำท่วมหนัก จากประสบการณ์ในอดีตการบริหารจัดการน้ำ ต้องทำให้น้ำลงทะเลให้ไวและมากที่สุด จากปัญหาฝนตกภาคเหนือ และมีน้ำท่วมหลายจังหวัด มีปริมาณน้ำมาก จึงต้องมีการเร่งระบายน้ำ โชคดีที่มีการเว้นช่วง ซึ่งพายุที่เข้าเชียงใหม่ น้ำก็จะไหลเข้าสู่เขื่อนภูมิพล แต่ก็ไม่ได้เยอะมากส่งผลให้มีน้ำท่วมบางพื้นที่ ซึ่งจากการคาดการณ์น้ำเหนือมวลนี้ อาจจะถึงจังหวัดสุพรรณบุรีภายใน 15 วันและ 20 วันถึงจังหวัดปทุมธานี จึงต้องวางแผนการป้องกัน ซึ่งต้องประสานกันตั้งแต่จังหวัดต้นน้ำและจังหวัดปลายน้ำสถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าดูว่าพายุที่จะเข้ามาจะมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากไม่เตรียมตัวเมื่อมีพายุเข้าฝนตกหนักมวลน้ำจากภาคเหนือไหลลงมาน้ำทะเลหนุน จะมีจังหวัดหลายจังหวัดเดือดร้อนและบ้านเรือนประชาชนรวมถึงพื้นที่เกษตรจะเสียหายจำนวนมากรศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทปล่อยน้ำมาในปริมาร 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังจากที่มีพายุซูลิกเข้ามาทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ อ.สามเงา แม่น้ำวัง และ แม่น้ำยม อ.วังชิ้น ผ่านสุโขทัยมา มวลน้ำเหล่านี้จะมารวมที่เขื่อนเจ้าพระยา จึงต้องบริหารความเสี่ยงโดยดูจากการระบายน้ำสูงสุดที่เขื่อนเจ้าพระยาในปริมาณเท่าไร วันนี้เราเตรียมการณ์ในระดับ 2,500 ไว้ก่อน ซึ่งกระทบประชาชนแน่นอน เพราะขณะนี้ปล่อยมา 2,000 เหลือช่องว่างแค่ 500 เอง 2 ถึง 3 วันนี้มีพายุเข้าที่ภาคเหนือ ฝนจะตกหนัก สิ่งเหล่านี้เป็นความเสี่ยง เราจึงต้องบริหารเตรียมความพร้อมไว้ก่อน ปริมาณ 2,500 ก็จะใกล้เคียงกับปี 64 และปี 65 ประชาชนที่เคยประสบกับน้ำท่วมเมื่อปี 65 ก็ต้องติดตามสถานการณ์ ส่วนในงานต่าง ๆ ผมคิดว่าทาง อบจ.ทางเทศบาล จากนี้มีเวลา 15-20 วัน เตรียมรับน้ำเพราะวันที่ 20 ตุลาคม 2567 น้ำทะเลจะหนุนสูงที่สุด จังหวะน้ำเหนือมาพอดีจึงเป็นประเด็จหลักที่เราต้องบริหาร ทุกวันนี้พื้นที่ให้น้ำอยู่มันไม่มี มันจะร่อยหรอไปเรื่อย ๆ จึงต้องประเมิน ในส่วนของน้ำทะเลหนุนนั้นได้เริ่มหนุนมาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567 นี้แล้ว แต่จะหนุนสูงสุดในวันที่ 19-20-21 สิงหาคม 2567 เป็นช่วงที่อันตราย ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ส่วนใหญ่ก็จะได้รับผลกระทบน้ำท่วมอยู่แล้วจึงต้องเฝ้าระวังพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวว่า เมื่อปี 64 ปี 65 ที่รอดมาได้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องเชิญหน่วยงานทุกหน่วยงาน ทั้ง 2 ฝั่งเจ้าพระยาเอามาทำงานร่วมกัน เชิญ จ.นครสวรรค์ อ่างทอง สิงห์บุรี อยุธยา และ กทม. มาร่วมประชุมกัน ทันทีที่ กกต. รับรอง ก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานได้ จะเชิญมาประชุมพร้อมกันเลย เพื่อให้ทุกคนแบ่งเบากันลงไป เรามาคุยกัน กรุงเทพฯ ปทุมฯ รับได้แค่ไหน ถ้าแค่นี่เรารับได้เราก็รับ แต่ต้องช่วยผันน้ำ หากทางนครปฐมเขาหนักก็ต้องผันน้ำลงเจ้าพระยา หรือผันออกนครนายกออกบางประกงไป ในส่วนของรังสิต นายกโบลิ่งได้ประสานรังสิตเหนือรังสิตใต้ ควบคุมระดับน้ำในคลองรังสิตฯ ร่วมกับชลประทาน จะเห็นว่าตอนนี้ในคลองรังสิตยังไม่วิกฤต ยังรับน้ำได้ แต่ต้องพร่องน้ำออกให้เยอะที่สุด เพื่อให้มีพื้นที่รับน้ำ การที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช้จังหวัดใครจังหวัดมัน ต่างคนต่างป้อง ต่างคนต่างทำ ไม่มีทางอยู่ จึงต้องประชุมหารือบูรณาการร่วมกัน. Related Topics: Leave a Reply ยกเลิกการตอบอีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *ความเห็น * ชื่อ * อีเมล * เว็บไซต์ บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป Δ{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}Your submission failed. The server responded with {{status_text}} (code {{status_code}}). Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}It appears your submission was successful. Even though the server responded OK, it is possible the submission was not processed. Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}Submitting… โพสต์ติดเทรนด์ ประชาสัมพันธ์3 เดือน ago เทศกาลไหว้พระจันทร์ กับขนมไหว้พระจันทร์ ภูมิภาค2 เดือน ago นครนายก – พิธีแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล ในเขตคณะสงฆ์ภาค 12 (นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว) ภูมิภาค1 เดือน ago 181067พะเยา ชื่นชมดาบตำรวจเมืองพะเยาขายข้าวแกงเสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ18 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านข้าวแกงที่ชื่อ“ข้าวราดแกงจิตราพร”บริเวณข้างที่ทำการไปรษณีย์หนองระบูอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ที่ชาวบ้านแห่ชื่นชมความขยันของดาบตำรวจสุมิตร ใสสม ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองพะเยา ปัจจุบันช่วยราชการตำรวจศาลจังหวัดพะเยาภาพที่ชาวบ้านและลูกค้าเห็นจนติดตาทุกเช้าและชื่นชมดาบตำรวจสุมิตร ใสสมที่กำลังจัดเตรียมเปิดร้านขายข้าวแกงที่ชื่อ “ข้าวราดแกงจิตราพร”ริมถนนพหลโยธิน อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาที่เตรียมข้าวของเครื่องใช้ อาหารพร้อมขายให้กับลูกค้าในแต่ละวันดาบฯสุมิตร กล่าวว่าตนเองและภรรยานางจิตราพร ใสสมจะช่วยกันมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมลำพังเงินเดือนข้าราชการตำรวจเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่พอเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งภรรยาและตนเองนั้นมีฝีมือในการทำอาหาร ก็เลยตกลงมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมโดยตนเองนั้นจะเป็นคนจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆตามที่ภรรยาจะทำอาหารตามเมนูของแต่ละวันตั้งแต่ซื้อของ ตัด หั่น ซอยและจัดบริเวณภายในร้านเพื่อให้ลูกค้ามารับประทานอาหารทั้งช่วยเสิร์ฟอาหาร เติมน้ำ เก็บกวาดร้าน ทำทุกอย่าง โดยจะเริ่มทำกับข้าวตั้งแต่ตีสามของทุกวัน ภรรยาเตรียมเครื่องแกงเตรียมไว้พร้อมปรุงตั้งแต่ 05.30น.เริ่มขายตั้งแต่เวลา07.00 น.จนกระทั่งถึงเวลาไปทำงานก็จะไปปฏิบัติงานทันทีโดยไม่กระทบต่อเวลาทำงานที่ทำซึ่งราคาข้าวแกงเริ่มต้นที่ราคา 30บาทเป็นต้นไปขายหมดทุกวันปิดร้านก็ประมาณ 10.00 น.ทุกวันหยุดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์และต้องขอบอกร้านข้าวแกงจิตราพรที่นี่รสชาติอร่อย ปริมาณมาก ราคาถูก ซึ่งรายได้เสริมได้อยู่ประมาณ 700-800บาทต่อวันซึ่งสร้างความประทับใจ และเสียงชื่นชมจากลูกค้า กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมากและแห่กันมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันและมีความรู้สึกดีๆ ที่เห็นตำรวจไม่อายทำกิน โดยการทำอาชีพเสริมที่สุจริตไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร เสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ ที่สำคัญหา ค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน อีกด้วย ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – พิธีเปิดและปิดโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของผู้ประกอบการส่องแก่งนครนายก พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรแด่วิทยากรและผู้ที่เข้าอบรม ภูมิภาค3 เดือน ago ปราจีนบุรี-เทคนิคปราจีนบุรีมอบโล่เชิดชูเกียรติสถานประกอบการร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – ศิษยานุศิษย์มอบเงินและลอตเตอรี่ ที่ถูกรางวัลให้วัดธรรมปัญญา รวมเป็นเงินจำนวน 122,000 บาทเพื่อใช้ในงานทอดกฐินสามัคคี