ร้อยเอ็ด-คัดสรรครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2568เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 เวลา 09.30 น. นายนพดล จอมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 2/2567 ที่ ห้องประชุมเสมาสามัคคี สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายอัมพร ภาระพันธ์ รองศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด คณะกรรมการคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เข้าร่วมประชุมนายนพดล จอมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดร้อยเอ็ด ตามที่มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้ามหาจักรี ออกประกาศมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้ามหาจักรี เรื่อง การสรรหาและคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 6 ปี พ.ศ.2568(ประเทศไทย) โดยกำหนดจำนวนครูที่ได้รับการคัดเลือกตามสัดส่วนจำแนกเป็นรายจังหวัด โดยจังหวัดร้อยเอ็ดมีสัดส่วนครู จำนวน 4 คน และตามมติที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกครูสมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ได้มีมติเห็นชอบเห็ปฏิทินการคัดเลือกครูฯ โดยเปิดให้มีการเสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 1- 30 กันยายน 2567นายนพดลฯ กล่าวอีกว่า บัดนี้ครบกำหนดปิดรับการเสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว มีผู้ได้รับการเสนอชื่อ จำนวน 4 ราย ดังนี้ รายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อภายในกำหนดเวลา 30 กันยายน 2567 จำนวน 3 ราย ได้แก่นายวิทูล ทิพประมวลครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหนองแวงแห่สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3 นางสาวจริยา เงาศรี ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ดสพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 นางวันวิสา อุ่นพิกุลครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย สพม.ร้อยเอ็ด รายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อฯ หลังกำหนดเวลา 30 กันยายน 2567 จํานวน 1 ราย คือนายเฉลิม พิเมย ครูชำนาญการพิเศษ วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทั้งนี้ จังหวัดร้อยเอ็ด จะออกประเมินเชิงประจักษ์ เพื่อรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ และประเมินคุณสมบัติเฉพาะ ตามคุณสมบัติผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ครูผู้ทุ่มเทปฏิบัติงาน สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์ และสร้างคุณประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษา ทั้ง 4 คน เพื่อเสนอต่อไปยัง มูลนิธิฯ ส่วนกลาง ต่อไป///คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ

เทศกาลไหว้พระจันทร์ กับขนมไหว้พระจันทร์

นครนายก – พิธีแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล ในเขตคณะสงฆ์ภาค 12 (นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว)

นครนายก – พิธีเปิดและปิดโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของผู้ประกอบการส่องแก่งนครนายก พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรแด่วิทยากรและผู้ที่เข้าอบรม

181067พะเยา ชื่นชมดาบตำรวจเมืองพะเยาขายข้าวแกงเสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ18 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านข้าวแกงที่ชื่อ“ข้าวราดแกงจิตราพร”บริเวณข้างที่ทำการไปรษณีย์หนองระบูอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ที่ชาวบ้านแห่ชื่นชมความขยันของดาบตำรวจสุมิตร ใสสม ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองพะเยา ปัจจุบันช่วยราชการตำรวจศาลจังหวัดพะเยาภาพที่ชาวบ้านและลูกค้าเห็นจนติดตาทุกเช้าและชื่นชมดาบตำรวจสุมิตร ใสสมที่กำลังจัดเตรียมเปิดร้านขายข้าวแกงที่ชื่อ “ข้าวราดแกงจิตราพร”ริมถนนพหลโยธิน อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาที่เตรียมข้าวของเครื่องใช้ อาหารพร้อมขายให้กับลูกค้าในแต่ละวันดาบฯสุมิตร กล่าวว่าตนเองและภรรยานางจิตราพร ใสสมจะช่วยกันมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมลำพังเงินเดือนข้าราชการตำรวจเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่พอเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งภรรยาและตนเองนั้นมีฝีมือในการทำอาหาร ก็เลยตกลงมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมโดยตนเองนั้นจะเป็นคนจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆตามที่ภรรยาจะทำอาหารตามเมนูของแต่ละวันตั้งแต่ซื้อของ ตัด หั่น ซอยและจัดบริเวณภายในร้านเพื่อให้ลูกค้ามารับประทานอาหารทั้งช่วยเสิร์ฟอาหาร เติมน้ำ เก็บกวาดร้าน ทำทุกอย่าง โดยจะเริ่มทำกับข้าวตั้งแต่ตีสามของทุกวัน ภรรยาเตรียมเครื่องแกงเตรียมไว้พร้อมปรุงตั้งแต่ 05.30น.เริ่มขายตั้งแต่เวลา07.00 น.จนกระทั่งถึงเวลาไปทำงานก็จะไปปฏิบัติงานทันทีโดยไม่กระทบต่อเวลาทำงานที่ทำซึ่งราคาข้าวแกงเริ่มต้นที่ราคา 30บาทเป็นต้นไปขายหมดทุกวันปิดร้านก็ประมาณ 10.00 น.ทุกวันหยุดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์และต้องขอบอกร้านข้าวแกงจิตราพรที่นี่รสชาติอร่อย ปริมาณมาก ราคาถูก ซึ่งรายได้เสริมได้อยู่ประมาณ 700-800บาทต่อวันซึ่งสร้างความประทับใจ และเสียงชื่นชมจากลูกค้า กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมากและแห่กันมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันและมีความรู้สึกดีๆ ที่เห็นตำรวจไม่อายทำกิน โดยการทำอาชีพเสริมที่สุจริตไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร เสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ ที่สำคัญหา ค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน อีกด้วย

ปราจีนบุรี-เทคนิคปราจีนบุรีมอบโล่เชิดชูเกียรติสถานประกอบการร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี

นครนายก – ศิษยานุศิษย์มอบเงินและลอตเตอรี่ ที่ถูกรางวัลให้วัดธรรมปัญญา รวมเป็นเงินจำนวน 122,000 บาทเพื่อใช้ในงานทอดกฐินสามัคคี