อาชญากรรม นนทบุรี ต่อข่าว หน่วยงานลงพื้นที่รับตัวน้องนะโมไปเยียวยาจิตใจ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี ปมเหตุทุบตีเด็กตลอด 3 ปี Published 1 เดือน ago on ตุลาคม 18, 2024 By admin3 apirat ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 17 ต.ค. 67 หลังจากเจ้าหน้าที่ พมจ.จังหวัดนนทบุรี พบตัวน้องนะโม และได้พูดคุยถึงปมเหตุที่น้องนะโม อายุ 12 ปี เดินเท้าหนีออกจากบ้านมาพักอยู่ใต้กองขยะ ข้างบ้านของเพื่อนสนิท ว่าได้ถูกป้าทุบตีตลอด 3 ปี ได้รับน้องนะโมไปดูแลและเยียวยาสภาพจิตใจที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ตามความประสงค์ของน้อง หลังจากรับตัวน้องนะโมแล้วได้เดินทางไปที่บ้านของป้า ปรากฏว่าคุณป้าของน้องไม่อยู่ที่บ้าน พบเพียงพี่สาวแท้ๆของน้องนะโม อายุ 14 ปี ลูกชาย และลูกสะใภ้ของป้า จึงได้มีการแยกพาพี่สาวแท้ๆ ของน้องนะโมมาพูดคุย ก็ให้ข้อมูลว่าถูกป้าทุบตีเช่นเดียวกัน และประสงค์ที่จะเดินทางไปอยู่ที่บ้านพักเด็กกับน้องชาย ทีมข่าวพูดคุยเปิดใจกับน.ส.ศิริลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ของน้องนะโม พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน และสนิทกับน้องนะโมมากที่สุด ยอมรับว่าน้องนะโม ถูกป้าตี ดุด่าบ้างจริง แต่ไม่ใช่การทารุณกรรม เป็นการตีเพื่อสอน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่นะโม เปิดน้ำทิ้งไว้ เปิดเตาแก๊สทิ้งไว้ ซึ่งป้ากลัวว่าจะเกิดไฟไหม้บ้าน ซึ่งนะโมเป็นเด็กที่ขี้น้อยใจด้วย แต่ว่าช่วงที่เกิดเหตุป้าก็ออกติดตามหานะโม เป็นห่วงนะโมเหมือนลูก เพราะเขาเลี้ยงมา ส่วนพี่สาว อายุ 14 ปี ก็เพิ่งถูกป้าดุไป เพราะแอบไปหาแฟนหนุ่ม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของผู้ใหญ่ ที่จะเป็นห่วงลูกหลาน แต่ยืนยันได้ว่าสิ่งที่ป้าทำทั้งหมดก็เพราะว่ารักหลานทั้ง 2 คน แล้ววันนี้หากน้องทั้ง 2 คน อยากจะไปอยู่ที่บ้านพักเด็ก ตนก็ไม่ขัดข้อง อยากให้เขาสบายใจ หลังจากนี้จะเดินทางไปเยี่ยม แต่ถ้าวันไหนน้องทั้ง 2 คน อยากกลับมาอยู่ที่บ้านก็สามารถกลับมาได้ ป้าเขาก็รับปากแล้วว่าเขาจะไม่ตีอีก ด้านนางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยกับทีมข่าวว่า จากการลงพื้นที่ตามข้อมูลที่ได้รับแจ้งว่าพบเด็กชายวัย 12 ปี ที่หายออกจากบ้าน และไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อน ได้เข้าไปพูดคุยกับน้อง พบว่าน้องมีสภาพจิตใจค่อนข้างแย่ผวา และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ได้มีการพูดคุยกับน้อง ก็เต็มใจที่จะไปอยู่ที่บ้านพักเด็กเพื่อได้รับการดูแลและเยียวยาจิตใจ จากการที่ได้พูดคุยกับน้องทำให้ทราบปมเหตุว่าสาเหตุที่ต้องหนีออกจากบ้านและไม่อยากกลับบ้านเลยเพราะถูกป้าแท้ๆ ทุบตีบ่อยครั้ง ใช้ให้ทำงานบ้านหากทำงานบ้านไม่เรียบร้อย ก็จะถูกตีถูกดุด่าและเขวี้ยงข้าวของใส่ เมื่อลงพื้นที่มาพูดคุยกับพี่สาว อายุ 14 ปี ปรากฏว่าก็ให้ข้อมูลตรงกัน และพี่สาวก็ประสงค์ที่จะไปอยู่บ้านพักเด็กเช่นเดียวกับน้องชาย ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะพาน้องทั้ง 2 คนไปตรวจร่างกายโดยละเอียดที่โรงพยาบาล ส่วนการตรวจสอบเบื้องต้น น้องนะโมมีร่อยรอยคล้ายถูกไม้แขวนเสื้อตีที่บริเวณขา ซึ่ง ลักษณะเป็นแผลเก่า และก็จะพาน้องทั้ง 2 คนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สภ.บางบัวทอง ตามข้อมูลและหลักฐาน โดยน้องทั้ง 2 คน จะอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กจังหวัดนนทบุรี โดยจะให้เพียงพี่ชายและพี่สะใภ้เข้าเยี่ยมเท่านั้น และสั่งห้ามไม่ให้ป้าเข้ามาเยี่ยมน้องโดยเด็ดขาด เพราะจะอยู่ในช่วงของการดูแลเยียวยาจิตใจ หลังจากนี้ถ้าน้องทั้ง 2 คน มีสภาพจิตใจที่แข็งแรง ก็จะสามารถกลับมาอยู่ที่บ้านกับครอบครัวได้แต่ทางครอบครัวเองก็ต้องมีการปรับพฤติกรรมไม่ใช้ความรุนแรงกับเด็กด้วยเช่นกัน ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โตผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี Related Topics: Leave a Reply ยกเลิกการตอบอีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *ความเห็น * ชื่อ * อีเมล * เว็บไซต์ บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป Δ{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}Your submission failed. The server responded with {{status_text}} (code {{status_code}}). Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}It appears your submission was successful. Even though the server responded OK, it is possible the submission was not processed. Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}Submitting… โพสต์ติดเทรนด์ ประชาสัมพันธ์3 เดือน ago เทศกาลไหว้พระจันทร์ กับขนมไหว้พระจันทร์ ภูมิภาค2 เดือน ago นครนายก – พิธีแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล ในเขตคณะสงฆ์ภาค 12 (นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว) ภูมิภาค1 เดือน ago 181067พะเยา ชื่นชมดาบตำรวจเมืองพะเยาขายข้าวแกงเสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ18 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านข้าวแกงที่ชื่อ“ข้าวราดแกงจิตราพร”บริเวณข้างที่ทำการไปรษณีย์หนองระบูอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ที่ชาวบ้านแห่ชื่นชมความขยันของดาบตำรวจสุมิตร ใสสม ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองพะเยา ปัจจุบันช่วยราชการตำรวจศาลจังหวัดพะเยาภาพที่ชาวบ้านและลูกค้าเห็นจนติดตาทุกเช้าและชื่นชมดาบตำรวจสุมิตร ใสสมที่กำลังจัดเตรียมเปิดร้านขายข้าวแกงที่ชื่อ “ข้าวราดแกงจิตราพร”ริมถนนพหลโยธิน อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาที่เตรียมข้าวของเครื่องใช้ อาหารพร้อมขายให้กับลูกค้าในแต่ละวันดาบฯสุมิตร กล่าวว่าตนเองและภรรยานางจิตราพร ใสสมจะช่วยกันมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมลำพังเงินเดือนข้าราชการตำรวจเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่พอเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งภรรยาและตนเองนั้นมีฝีมือในการทำอาหาร ก็เลยตกลงมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมโดยตนเองนั้นจะเป็นคนจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆตามที่ภรรยาจะทำอาหารตามเมนูของแต่ละวันตั้งแต่ซื้อของ ตัด หั่น ซอยและจัดบริเวณภายในร้านเพื่อให้ลูกค้ามารับประทานอาหารทั้งช่วยเสิร์ฟอาหาร เติมน้ำ เก็บกวาดร้าน ทำทุกอย่าง โดยจะเริ่มทำกับข้าวตั้งแต่ตีสามของทุกวัน ภรรยาเตรียมเครื่องแกงเตรียมไว้พร้อมปรุงตั้งแต่ 05.30น.เริ่มขายตั้งแต่เวลา07.00 น.จนกระทั่งถึงเวลาไปทำงานก็จะไปปฏิบัติงานทันทีโดยไม่กระทบต่อเวลาทำงานที่ทำซึ่งราคาข้าวแกงเริ่มต้นที่ราคา 30บาทเป็นต้นไปขายหมดทุกวันปิดร้านก็ประมาณ 10.00 น.ทุกวันหยุดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์และต้องขอบอกร้านข้าวแกงจิตราพรที่นี่รสชาติอร่อย ปริมาณมาก ราคาถูก ซึ่งรายได้เสริมได้อยู่ประมาณ 700-800บาทต่อวันซึ่งสร้างความประทับใจ และเสียงชื่นชมจากลูกค้า กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมากและแห่กันมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันและมีความรู้สึกดีๆ ที่เห็นตำรวจไม่อายทำกิน โดยการทำอาชีพเสริมที่สุจริตไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร เสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ ที่สำคัญหา ค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน อีกด้วย ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – พิธีเปิดและปิดโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของผู้ประกอบการส่องแก่งนครนายก พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรแด่วิทยากรและผู้ที่เข้าอบรม ภูมิภาค3 เดือน ago ปราจีนบุรี-เทคนิคปราจีนบุรีมอบโล่เชิดชูเกียรติสถานประกอบการร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – ศิษยานุศิษย์มอบเงินและลอตเตอรี่ ที่ถูกรางวัลให้วัดธรรมปัญญา รวมเป็นเงินจำนวน 122,000 บาทเพื่อใช้ในงานทอดกฐินสามัคคี