อาชญากรรม เจอชิ้นส่วนอวัยวะแล้ว Published 1 เดือน ago on ตุลาคม 24, 2024 By admin3 apirat มุกดาหาร พบแล้วชิ้นส่วนแขนและศีรษะ น้องอาร์มจมอยู่ในสระน้ำมุกดาหาร – เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยร่วมใจมุกดาหาร พร้อมชาวบ้านเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อทำการสูบน้ำออกจากสระ หาชิ้นส่วนแขนและศีรษะของน้องอาร์ม อายุ 15 ปี ที่จมน้ำเสียชีวิตประมาณ 14 วัน ล่าสุดพบแล้ว24 10 67 พ.ต.ต.วัลลภ โพธิวัง ร้อยเวร สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งชาวบ้านที่มาตกปลาบริเวณท้ายหมู่บ้าน บ้านด่านคำ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ได้กลิ่นเหม็นโชยมาตามลม จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ประยุทธ์ เรือนทองคำ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร ทราบ พร้อมประสานสมาคมกู้ภัยร่วมใจมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ที่ได้รับแจ้งที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้เดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงจนพบศพ ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ชาย ศพอยู่ในสภาพนอนคว่ำลอยน้ำอยู่ติดกับฝั่งของสระน้ำ ซึ่งศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงวอร์มขายาวสีดำ สภาพศพ มีสภาพเปื่อย พอนำศพขึ้นจากหนองน้ำ ไม่พบศีรษะ และแขนข้างขวาด้านนันฐพงษ์ สลางสิงห์ เจ้าของที่ดินที่มีหนองน้ำ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนั้นอยู่ที่บ้านได้เห็นเสื้อแจ๊คเก็ตสีเหลืองพาดอยู่ที่รั้ว ซึ่งจำได้ว่าเสื้อดังกล่าวน่าจะเป็นของ นางรัชนี ศรีโยหะ บ้านเลขที่ 202 หมู่ที่ 6 ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กัน จึงได้โทรศัพท์ไปถามนางรัชนี หลังจากนั้นนางรัชนีได้มาดูเสื้อและบอกว่าเป็นของตนเอง โดยลูกชาย คือ นายอมรินทร์ วาปี อายุ 15 ปี นำไปใส่ และน่าจะนำมาพาดไว้ ซึ่งนางรัชนีในขณะนั้นก็ไม่ได้เอะใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นกับลูกชาย เนื่องจากก่อนหน้านี้นางรัชนีได้มีปากเสียงกับลูกชาย หลังจากนั้นลูกชายก็ได้หายออกจากบ้านไป ซึ่งในขณะนั้นนางรัชนีก็คิดว่าลูกชายไปนอนบ้านเพื่อน ซึ่งเป็นปกติของลูกชายที่ไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง กลับมานอนบ้านตนเองบ้างหลังจากได้ข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามตัวนางรัชนีให้มาดูศพว่าเป็นลูกชายของตนเองหรือไม่ เมื่อนางรัชนีมาถึงที่เกิดเหตุ และได้ดูสภาพศพก็ยืนยันว่าศพดังกล่าวคือ นาย อมรินทร์ วาปี บุตรชายของตนจริงจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ชันสูตรพลิกศพร่วมกับ พญ.พิมพ์ชนก ตั้งกมลเลิศ แพทย์ รพ.มุกดาหาร และรับไว้เป็นคดีชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไปขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมใจมุกดาหารได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทำการงมหาศีรษะและชิ้นส่วนแขนของนายอมรินทร์ วาปี ผู้ตาย ที่หายไปในหนองน้ำล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. (24 ตุลาคม 2567) เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยร่วมใจมุกดาหาร และชาวบ้าน พบชิ้นส่วนแขนและศีรษะ ผู้เสียชีวิต คือนายอมรินทร์ วาปี อายุ 15 ปีจากการสอบถาม น.ส.นิตยา (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี อาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองเลื้ยงหลานชายคนนี้มาตั้งแต่พ่อแม่ของน้องได้แยกทางกัน เมื่อ 10 ปี ก่อน ตอนนั้นน้องอายุได้ประมาณขวบกว่า เมื่ออายุประมาณ 14 ปี นายอมรินทร์ ได้ขอไปอยู่กับแม่โดยไปอยู่เมื่อปีที่แล้ว และมาเสียชีวิตในอายุ 15 ปีดังกล่าว ในส่วนของตนและทางครอบครัวฝ่ายพ่อ ยังสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนตนอยากฝากเจ้าหน้าที่ช่วยไข ข้อข้องใจนี้ด้วยจากนั้นร้อยเวร สภ.เมืองมุกดาหาร พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมุกดาหาร ทำการชันสูตร ซึ่งทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต และได้มอบชิ้นส่วนแขน และศีรษะให้ครอบครัวรับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป..อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร 081-5449094 Related Topics: Leave a Reply ยกเลิกการตอบอีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *ความเห็น * ชื่อ * อีเมล * เว็บไซต์ บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป Δ{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}Your submission failed. The server responded with {{status_text}} (code {{status_code}}). Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}It appears your submission was successful. Even though the server responded OK, it is possible the submission was not processed. Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}Submitting… โพสต์ติดเทรนด์ ประชาสัมพันธ์3 เดือน ago เทศกาลไหว้พระจันทร์ กับขนมไหว้พระจันทร์ ภูมิภาค2 เดือน ago นครนายก – พิธีแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล ในเขตคณะสงฆ์ภาค 12 (นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว) ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – พิธีเปิดและปิดโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของผู้ประกอบการส่องแก่งนครนายก พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรแด่วิทยากรและผู้ที่เข้าอบรม ภูมิภาค1 เดือน ago 181067พะเยา ชื่นชมดาบตำรวจเมืองพะเยาขายข้าวแกงเสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ18 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านข้าวแกงที่ชื่อ“ข้าวราดแกงจิตราพร”บริเวณข้างที่ทำการไปรษณีย์หนองระบูอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ที่ชาวบ้านแห่ชื่นชมความขยันของดาบตำรวจสุมิตร ใสสม ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองพะเยา ปัจจุบันช่วยราชการตำรวจศาลจังหวัดพะเยาภาพที่ชาวบ้านและลูกค้าเห็นจนติดตาทุกเช้าและชื่นชมดาบตำรวจสุมิตร ใสสมที่กำลังจัดเตรียมเปิดร้านขายข้าวแกงที่ชื่อ “ข้าวราดแกงจิตราพร”ริมถนนพหลโยธิน อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาที่เตรียมข้าวของเครื่องใช้ อาหารพร้อมขายให้กับลูกค้าในแต่ละวันดาบฯสุมิตร กล่าวว่าตนเองและภรรยานางจิตราพร ใสสมจะช่วยกันมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมลำพังเงินเดือนข้าราชการตำรวจเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่พอเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งภรรยาและตนเองนั้นมีฝีมือในการทำอาหาร ก็เลยตกลงมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมโดยตนเองนั้นจะเป็นคนจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆตามที่ภรรยาจะทำอาหารตามเมนูของแต่ละวันตั้งแต่ซื้อของ ตัด หั่น ซอยและจัดบริเวณภายในร้านเพื่อให้ลูกค้ามารับประทานอาหารทั้งช่วยเสิร์ฟอาหาร เติมน้ำ เก็บกวาดร้าน ทำทุกอย่าง โดยจะเริ่มทำกับข้าวตั้งแต่ตีสามของทุกวัน ภรรยาเตรียมเครื่องแกงเตรียมไว้พร้อมปรุงตั้งแต่ 05.30น.เริ่มขายตั้งแต่เวลา07.00 น.จนกระทั่งถึงเวลาไปทำงานก็จะไปปฏิบัติงานทันทีโดยไม่กระทบต่อเวลาทำงานที่ทำซึ่งราคาข้าวแกงเริ่มต้นที่ราคา 30บาทเป็นต้นไปขายหมดทุกวันปิดร้านก็ประมาณ 10.00 น.ทุกวันหยุดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์และต้องขอบอกร้านข้าวแกงจิตราพรที่นี่รสชาติอร่อย ปริมาณมาก ราคาถูก ซึ่งรายได้เสริมได้อยู่ประมาณ 700-800บาทต่อวันซึ่งสร้างความประทับใจ และเสียงชื่นชมจากลูกค้า กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมากและแห่กันมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันและมีความรู้สึกดีๆ ที่เห็นตำรวจไม่อายทำกิน โดยการทำอาชีพเสริมที่สุจริตไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร เสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ ที่สำคัญหา ค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน อีกด้วย ภูมิภาค3 เดือน ago ปราจีนบุรี-เทคนิคปราจีนบุรีมอบโล่เชิดชูเกียรติสถานประกอบการร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – ศิษยานุศิษย์มอบเงินและลอตเตอรี่ ที่ถูกรางวัลให้วัดธรรมปัญญา รวมเป็นเงินจำนวน 122,000 บาทเพื่อใช้ในงานทอดกฐินสามัคคี