ภูมิภาค อบรมครู Published 1 เดือน ago on ตุลาคม 24, 2024 By admin3 apirat มุกดาหาร สกร อบรมครูนำระบบ AI เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบมุกดาหาร สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดมุกดาหาร (สกร. ) จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาบุคลากรด้วยระบบ AI เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชน อายุ 6-18 ปี ที่หลุดออกจากระบบการศึกษาจำนวน 394,039 คน ส่วนจังหวัดมุกดาหารจำนวน 1,559 คน24 10 67 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาบุคลากรด้วยระบบ AI เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาชนอายุ 6-18 ปี ที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ โดยมี นายสมเจตน์ สวาศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษาอื่น ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 115 คน เข้าร่วมในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 24-25 ตุลาคม 2567 ณ ธารจินดารีสอร์ท อ.เมือง จังหวัดมุกดาหารนายสมเจตน์ สวาศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา โดยมีจำนวนเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจาก ระบบการศึกษา 394,039 คน จึงมีนโยบายเร่งด่วนให้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ดำเนินการสำรวจข้อมูลเด็กและเยาวชนอายุ 6-18 ปี ที่หลุดออกจากระบบการศึกษา เพื่อให้การช่วยเหลือ สนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มอบหมายให้ สำนักงาน สกร.ประจำจังหวัดทุกแห่ง ดำเนินการสำรวจข้อมูลเด็กและเยาวชนอายุ 6-18 ปี ที่หลุดออกจาระบบการศึกษา โดยสำนักงาน สกร.ประจำจังหวัดมุกดาหาร มีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 1,559 คน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัด กรมส่งเสริมการเรียนรู้ จึงได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาบุคลากรด้วยระบบ AI เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชน อายุ 6-18 ปี ที่หลุดออกจากระบบการศึกษา เพื่อพัฒนาระบบช่วยเหลือ รวมถึงพัฒนาบุคลากรในสังกัด ให้มีความรู้ความสามารถและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาชนอายุ 6-18 ปี ที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ให้เข้าสู่ระบบการศึกษา และสามารถนำประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปอีกด้วยนายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า การศึกษาเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทย เป็นประตูสู่อินโดจีน มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ เพื่อจะได้เสริมทักษาในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยว ฉะนั้นการพัฒนาบุคคลากรมีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามเด็กมีความจำเป็นต้องให้การศึกษาอย่างทั่วหน้า และลดความเหลื่อมล้ำสกร. เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งเป็นผู้ที่เก็บตกนักเรียนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา เพื่อให้สามารถเข้ามาสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยให้การศึกษา ขบวนการที่จะใช้ Application AI เข้ามาช่วยของ สกร. ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทำให้การดูแลจัดการเรื่องการศึกษาของเด็กๆ ๆทุกคนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาทั้ง 1,559 คน ของจังหวัดมุกดาหาร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำการศึกษาของนักเรียน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต้องขอขอบคุณ สกร. และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ความสำคัญของการจัดการศึกษาในครั้งนี้ ..อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร 081-5449094 Related Topics: Leave a Reply ยกเลิกการตอบอีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *ความเห็น * ชื่อ * อีเมล * เว็บไซต์ บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป Δ{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}Your submission failed. The server responded with {{status_text}} (code {{status_code}}). Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}It appears your submission was successful. Even though the server responded OK, it is possible the submission was not processed. Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}Submitting… โพสต์ติดเทรนด์ ประชาสัมพันธ์3 เดือน ago เทศกาลไหว้พระจันทร์ กับขนมไหว้พระจันทร์ ภูมิภาค2 เดือน ago นครนายก – พิธีแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล ในเขตคณะสงฆ์ภาค 12 (นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว) ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – พิธีเปิดและปิดโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของผู้ประกอบการส่องแก่งนครนายก พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรแด่วิทยากรและผู้ที่เข้าอบรม ภูมิภาค1 เดือน ago 181067พะเยา ชื่นชมดาบตำรวจเมืองพะเยาขายข้าวแกงเสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ18 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านข้าวแกงที่ชื่อ“ข้าวราดแกงจิตราพร”บริเวณข้างที่ทำการไปรษณีย์หนองระบูอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ที่ชาวบ้านแห่ชื่นชมความขยันของดาบตำรวจสุมิตร ใสสม ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองพะเยา ปัจจุบันช่วยราชการตำรวจศาลจังหวัดพะเยาภาพที่ชาวบ้านและลูกค้าเห็นจนติดตาทุกเช้าและชื่นชมดาบตำรวจสุมิตร ใสสมที่กำลังจัดเตรียมเปิดร้านขายข้าวแกงที่ชื่อ “ข้าวราดแกงจิตราพร”ริมถนนพหลโยธิน อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาที่เตรียมข้าวของเครื่องใช้ อาหารพร้อมขายให้กับลูกค้าในแต่ละวันดาบฯสุมิตร กล่าวว่าตนเองและภรรยานางจิตราพร ใสสมจะช่วยกันมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมลำพังเงินเดือนข้าราชการตำรวจเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่พอเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งภรรยาและตนเองนั้นมีฝีมือในการทำอาหาร ก็เลยตกลงมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมโดยตนเองนั้นจะเป็นคนจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆตามที่ภรรยาจะทำอาหารตามเมนูของแต่ละวันตั้งแต่ซื้อของ ตัด หั่น ซอยและจัดบริเวณภายในร้านเพื่อให้ลูกค้ามารับประทานอาหารทั้งช่วยเสิร์ฟอาหาร เติมน้ำ เก็บกวาดร้าน ทำทุกอย่าง โดยจะเริ่มทำกับข้าวตั้งแต่ตีสามของทุกวัน ภรรยาเตรียมเครื่องแกงเตรียมไว้พร้อมปรุงตั้งแต่ 05.30น.เริ่มขายตั้งแต่เวลา07.00 น.จนกระทั่งถึงเวลาไปทำงานก็จะไปปฏิบัติงานทันทีโดยไม่กระทบต่อเวลาทำงานที่ทำซึ่งราคาข้าวแกงเริ่มต้นที่ราคา 30บาทเป็นต้นไปขายหมดทุกวันปิดร้านก็ประมาณ 10.00 น.ทุกวันหยุดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์และต้องขอบอกร้านข้าวแกงจิตราพรที่นี่รสชาติอร่อย ปริมาณมาก ราคาถูก ซึ่งรายได้เสริมได้อยู่ประมาณ 700-800บาทต่อวันซึ่งสร้างความประทับใจ และเสียงชื่นชมจากลูกค้า กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมากและแห่กันมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันและมีความรู้สึกดีๆ ที่เห็นตำรวจไม่อายทำกิน โดยการทำอาชีพเสริมที่สุจริตไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร เสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ ที่สำคัญหา ค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน อีกด้วย ภูมิภาค3 เดือน ago ปราจีนบุรี-เทคนิคปราจีนบุรีมอบโล่เชิดชูเกียรติสถานประกอบการร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – ศิษยานุศิษย์มอบเงินและลอตเตอรี่ ที่ถูกรางวัลให้วัดธรรมปัญญา รวมเป็นเงินจำนวน 122,000 บาทเพื่อใช้ในงานทอดกฐินสามัคคี