นนทบุรี โพสต์ รถ 2 คันนี้จอดทิ้งตายมานานมากๆตรงท้ายซอย 8/9 ที่สำหรับกลับรถพร้อมกับเลี้ยงนกพิราบอีกฝูงใหญ่ๆขึ้นกเต็มไปหมด ตากผ้าก็ไม่ได้ ไวรัสคงจะปลิวว่อนไปไหนหายใจไม่สะดวก ใครมีวิธีแก้ไขช่วยแนะนำด้วย
“แต่อย่าบอกนะว่าต้องคุยกับเจ้าของ”คงคุยกันไม่รู้เรื่องเป็นแน่แท้
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื่นที่ หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว ซึ่งหน้าบ้านมีรถ เก๋ง 1 คนและรถตู้ 1 คันจอดอยูหลังคารถพบขี้นกพิรสบเต็มหลังคารถทั้ง 2 คัน มีนกพิราบบินไปมาที่หน้าบ้านและในรั้วบ้าน ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได่เรียกถามคนในบ้านพบเป็นผู้ชายเดินออกมาแต่ไม่พูดอะไรแล้วเดินเข้าบ้านไป
นายสันติชัย พรหมมาศ อายุ 74 ปี หน้าที่กรรมการหมู่บ้าน เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยอยู่กัน 2 คน แม่กับลูกชายและบ้านหลังดังกล่าวชอบให้ข้าวนกพิราบให้มาประมาณ 3 ปีได้ซึ่งตนก็เคยเขาไปคุยและพูดตักเตือนบอกห้ามให้อาหารนกพิราบแต่ก็ไม่ฟังผ่านมาหล่ยปีก็ยังให้อาหารนกเหมือนเดิมในแต่ละวันลงมากินอาหารที่ให้เป็นพันตัวซึ่งมันเป็นเชื้อโรคทั้งนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้เลิกให้อาหารนก
นางสุภาพร กลัดนาคะ อายุ 51 ปี ประธานชุมชน กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวให้อาหารนกมาไม่ต่ำกว่า 3 ปีแล้ว และตนก็เคยเข้าไปพูดคุยกับป้าเปีย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านว่าอยาให้อาหารนกพิราบเพราะชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแต่ก็ยังให้เหมือนเดิมชาวบ้านตากผ้าได้รับผลกระทบกันทั่งนั้นจากขี้นกและกลินก็โชยไปตามลมและอีกอย่างบ้านหลังดังกล่างอยู่ติดกับสนามประชาออกกำลังกายก็ได้รับผลหระทบกันทั้งนั้นซึ่งคนก็เข้าใจว่าใฟ้อาหารสัตว์ก็เป็นการทำบุญแล้วถ้าทำบุญแล้วทำให่ชาวบ้านเดือดร้อนก็หยุดเถอะอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและกำจัดนกออกไปเพราะประชาชาได้รับความเดือดร้อน
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี