อาชญากรรม จบที่ศาล Published 1 สัปดาห์ ago on พฤศจิกายน 18, 2024 By admin3 apirat จูน เพ็ญชุลี อดีตภรรยา หนุ่ม กะลา ขึ้นศาลวันนี้ ลั่น ได้ยินว่ามีคนอยากเจอ ส่วนตัวเธอก็พร้อมขึ้นศาลเช่นกันคืบหน้า กรณีคดีฟ้องร้องกันระหว่าง จูน เพ็ญชุลี หนูแก้ว และ บุคคลที่สาม ด้วยเหตุเป็น มือที่สาม ของเธอและอดีตสามีนักร้องอย่าง หนุ่ม กะลา ก่อนที่ต่อมาเรื่องราวจะทวีความร้อนแรงขึ้น เพราะทางคู่กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น มือที่สาม ได้ฟ้องเธอกลับต่อมา เมื่อ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 จูน เพ็ญชุลี ได้ออกมาโพสต์ภาพผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว / June Penchu / โดยเป็นภาพขณะที่เจ้าตัวกำลังทำสวย พร้อมแนบข้อความว่า วันจันทร์นี้มีนัดขึ้นศาลในฐานะจำเลย แอบได้ยินมาว่าฝ่ายคู่กรณีอยากเจอ ซึ่งเธอก็พร้อมมากเช่นกัน / ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงเช้าวันนี้ (วันที่18 พฤศจิกายน 2567) ระหว่างเดินทางไปที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ สาวจูนก็ได้โพสต์คลิปคู่ลูกสาว พร้อมแนบข้อความว่า / ลูกสาวชมแต่เช้า พลังแม่มาเต็มละ / หลังเผยแพร่โพสต์ดังกล่าวออกไป บรรดาแฟน ๆ ทั้งหลายต่างก็เข้ามาคอมเมนต์อวยพรคุณแม่จูนกันมากมายล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 จูน เพ็ญชุลี อดีตภรรยา หนุ่ม กะลา ได้เดินทางมาพร้อมกับ ทนายพัฒน์ ส่วนฝั่ง “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” หรือ “ปฤณณรัศม์ ศรีโชติวรรักษ์” คู่กรณีนั้น เดินทางมากับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ หลังมีการถูกฟ้องร้องจากมือที่สาม โดยในวันนี้ศาลได้นัด จูน เพ็ญชุลี มาในฐานะจำเลย โดยใช้เวลาไต่ส่วนมูลฟ้องอยู่นานกว่า 4 ชั่วโมงจูน เพ็ญชุลี และ ทนายพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ที่ฝั่งผู้เสียหาย ฟ้องคุณจูน กับเพจอีกี้ ในกรณีที่ทางฝ่ายนั้นอ้างว่า คุณจูน มีการไปว่าจ้างทางเพจอีกี้ ให้มีการโพสต์กล่าวหา ทำให้เขาได้รับความเสียหาย วันนี้กับทางฝ่ายนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน มีเพียงแค่ได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ฝ่ายนั้นไม่ได้มีทีท่าอะไร ส่วนเรื่องกรณีที่ที่เขากล่าวหาว่าทางเพจ ถูกตนว่าจ้างนั้น มันเป็นเพียงแค่ตอนนั้นประเด็นนี้กำลังดัง ทางเพจต่างๆจึงทักมาขอข้อมูลกับตน ทางเพจนี้ก็เช่นกันเขาก็ทักมาขอข้อมูลกับตน เราก็ตอบในส่วนที่เราตอบได้ ส่วนเรื่องเงิน ก็จะมีการโอนเงินให้ทางบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นการช่วยเหลือในเรื่องบางเรื่อง ไม่ได้เกี่ยวกับการจ้างวาน ข้อความที่ส่งให้กัน ก่อนหน้าที่จะมีการโอนเงินก็มีใจความชัดเจนอยู่แล้ว ว่าไม่ใช่เรื่องการจ้างวาน ทางเรายืนยัน ส่วนคดีที่มีปัญหากันอยู่ก็รอทางคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ทางศาลไม่มีนัดที่จะมาพูดคุยกันแล้ว วันนี้เป็นเพียงเรื่องการไต่สวนมูลฟ้องเรื่องคดีหมิ่นประมาท ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ว่าคดีมีมูลหรือไม่ ทางเราพร้อมชี้แจงอยู่แล้วและมีเอกสารทุกอย่างเตรียมพร้อมให้ ถ้าสงสัยเรื่องไหนก็สอบถามมาได้เรามีหลักฐานและสลิปการโอนเงินทุกอย่าง อัพเดทชีวิตคุณจูนช่วงนี้ก็ปกติดี ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว เรื่องการเลี้ยงลูกตนก็เลี้ยงลูกเองมาตลอดอยู่แล้วก็ไม่ได้มีการปรับตัวอะไรมากมาย ส่วนทางด้านพี่หนุ่มเองก็ได้มีการติดต่อพูดคุยแต่ก็แค่เรื่องลูกเท่านั้น เรื่องข่าวตนก็ไม่ได้มีความกังวลเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง ที่เดินทางมาวันนี้ก็เพื่อจะมาชี้แจงว่าเราไม่ได้ทำ ก็ให้มันเป็นไปตามกระบวนการความจริงมันจะได้ปรากฏขึ้น ด้านทนายกล่าวว่าที่จริงเรื่องนี้ทางตนและคุณจูนได้พยายามเจรจามาโดยตลอด แต่ทางตัวลูกความเองอาจจะมีเงื่อนไข หรือยังไม่พร้อมเปิดใจ แต่เชื่อว่าวันนึงมันก็ต้องจบลงจ๊ะโอ๋ งามพริ้ง และ ทนายเดชา กล่าว่า วันนี้บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ทางโจทก์กับจำเลยก็ได้เจอกัน แต่ไม่ได้มีการพูดคุยกัน และได้มีการสืบพยานจำนวน 5 ปาก วันนี้ทางจำเลยที่ 1 ไม่ได้มา มีมาแค่จำเลยที่ 2 และทนายเพียง 2 คน ก่อนหน้านี้ทางตัวจำเลยที่ 1 ไม่ได้มีการพูดคุยกับทางเรา และยังมีการฟ้องกลับทางเราด้วย เป็นคดีหมิ่นประมาทที่ศาลายา วันนี้ตนไม่ได้รู้สึกอะไรคิดเพียงแค่ว่าต่างฝ่ายต่างมาทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเรามาทำหน้าที่ของเราเขาก็มาทำหน้าที่ของเขา หลังจากนี้ก็ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล วันนี้ทางตนเตรียมหลักฐานเอกสารมาเยอะพอสมควร ส่วนทางจำเลยหรือคุณจูนเขาก็ต่อสู้ของเขา ว่าการโอนเงินนั้นเป็นการโอนเงินเพื่อจ้างให้ไปสืบข้อมูลของคุณโอ๋ ไม่ได้จ้างเพื่อมาโจมตีทางฝ่ายเรา ส่วนด้านเรื่องของจำเลยที่ 1 มันมีพยาน หลักฐานเยอะอยู่แล้วเพียงแต่ไม่มีข้อมูลด้าน IP Address เพราะว่ามันเป็นเพจอวตาร มันก็ต้องใช้ข้อมูลด้านอื่นๆประกอบ แต่ทางเราก็มีพยานหลักฐานพอสมควร อยากฝากไปถึงเพจอวตาร ว่าวันหนึ่งก็จะมีคนจับได้ อย่าไปเที่ยวด่าคนอื่นไปทั่ว ต้องระวัง อยากฝากเอาไว้สำหรับเพจอื่นๆให้ระวังตัว วันนี้การไต่สวนเป็นไปในทิศทาง ของเรื่องการสืบพยาน เกี่ยวกับเรื่องการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ส่วนจะมีมูลหรือไม่รอศาลตัดสินในวันที่ 24 ธันวาคม 2561 เวลา 9:00 น ก็จะได้รู้ว่าผลคดีเป็นอย่างไร ส่วนการเรียกค่าเสียหายก็ยังคงเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านเหมือนเดิม เพราะว่าเสียหายหลายอย่าง ทางแบรนด์เขาก็มีคนมาด่า ส่วนจะได้เท่าไหร่ก็แล้วแต่ศาลเราเคารพกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ส่วนทางคุณจ๊ะโอ๋ ในช่วงนี้ได้มาศาลบ่อยมาก เพราะมีเรื่องการฟ้องร้องคดีอื่นอีก ตนไม่ได้ซีเรียสอะไร ไม่ได้กังวลกับคดีนี้ ตอนนี้ตนมีการฟ้องร้องประมาณ 30 คดีแล้วเรื่องคนที่มาวิพากษ์วิจารณ์ตน อยากจะฝากไว้ให้หยุดการกระทำ ใน 30 คดีนี้มีสำนักข่าวก็โดน ผู้ประกาศข่าวก็โดน ผู้ดำเนินรายการและชาวบ้านก็มี ตนคัดมาแล้วเป็นพวกที่ด่าตนหนักๆ อยากจะฝากไว้ว่าถ้าไม่ชอบก็แค่เลื่อนผ่านไม่ต้องมาด่า ส่วนสื่อมวลชนก็ควรนำเสนอแบบกลางๆ อย่าใส่สีตีไข่เยอะ ถ้าเป็นคดีมาก็จะเหนื่อย ทางทนายเดชากล่าวว่าวันนี้ได้นำพยานมาด้วยอีก 4 ปาก รวมกับคุณจ๊ะโอ๋ก็เป็น 5 ทางพยานก็มายืนยันว่าใครคืออีกี้ ส่วนทางจ๊ะโอ๋ตอนนี้ก็ยังมีติดต่อกับคุณหนุ่มอยู่บ้าง ในทางด้านคดีความ ส่วนทางด้านความสัมพันธ์ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ดี ก็ถือว่าเป็นพี่น้อง พอตอนได้ปรึกษากับเขาก็สบายใจขึ้น เพราะพี่เขาเป็นคนมีวุฒิภาวะ ถ้าหลังจากนี้ชาวเน็ตจะด่าอีก ก็ถ้าสบายใจก็ด่าเลย หลังๆมานี้ตนก็สบายใจขึ้นเพราะไม่ได้เล่นโซเชียลด้วย ทางด้านทนายเดชากล่าวว่าถ้าอยากด่าก็ด่าไปเถอะก็เพียงแค่รอหมายศาล เพราะทางจ๊ะโอ๋โดนด่ามานานหลายปี ไปเปลี่ยนด่าคนอื่นบ้าง จริงๆตัวจ๊ะโอ๋เองไม่ได้สนใจแต่ทางคนรู้จักจะมีการส่งข้อมูลมาให้ สำหรับcommentที่ด่าแรงๆ พอตนได้ข้อมูลมาตนจึงฟ้อง ส่วนสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตนคือทางครอบครัวทางแม่และพนักงานของตน ตนไม่โฟกัสคนอื่นคนอื่นจะมองยังไงตนไม่สน ตนรู้ว่าตนเป็นคนยังไง สินค้าเรายังขายได้ ครอบครัวเรายังอยู่ได้ คุณแม่ก็โอเคดีทุกอย่างก็เลยโอเค ส่วนด้านทนายเดชาได้กล่าวว่าหลังจากนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้วก็เพียงแค่รอฟังคำสั่ง วันที่ 24 ธันวาคมนี้ว่าจะมีมูลหรือยกฟ้อง ส่วนอีก 20 คดีที่เหลือทางตนไม่ได้เป็นคนดูแลคดีเป็นสำนักงานอื่นดูแลคดี ทางด้านคุณจ๊ะโอ๋ได้กล่าวว่า 20 คดีที่เหลือได้เสร็จสิ้นไปหมดแล้ว จริงๆตอนนี้คดีนี้จะเป็นคดีสุดท้าย และเหลือแค่เพจ Top New กับเรื่องโดนทางเพจอีกี้ฟ้อง นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วหมดแล้ว ส่วนเรื่องชาวเน็ตที่ยังด่าตนอยู่ก็แล้วแต่ดุลพินิจของเขา มันมีทั้งคนชอบและคนเกลียดเรา มันเป็นเรื่องธรรมดา ตนไปห้ามเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องของที่มาวันนี้เราก็ได้เจอทางจำเลย เราไม่ได้มีความรู้สึกเกลียดหรือโกรธอะไร เพียงแค่อยากให้เขามาชี้แจง ในส่วนของ หลักฐานที่เราได้มาว่าการโอนเงินไปขนาดนี้ไปให้เพจนี้คุณโอนไปเพื่ออะไร เราก็แค่ต้องการอยากรู้ความจริง เพราะจริงๆใจเราต้องการอยากจะฟ้องเพจนี้อยู่แล้ว และหลักฐานที่เราได้มามันดันไปเชื่อมโยง จริงๆเรื่องที่เราฟ้องเราไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เราแค่ต้องฟ้องเพื่อให้เขามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทางทนายเดชากล่าวว่าวันนี้ได้คุยกับคุณจูนทางคุณจูนก็ไม่ได้เครียดแล้วเพราะเรื่องมันนานมากแล้ว ภาพ/ข่าว กริชแก้ว ศิริมงคลผู้สื่อข่าว จ.สมุทรปราการ Related Topics: Leave a Reply ยกเลิกการตอบอีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *ความเห็น * ชื่อ * อีเมล * เว็บไซต์ บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป Δ{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}Your submission failed. The server responded with {{status_text}} (code {{status_code}}). Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}{{#message}}{{{message}}}{{/message}}{{^message}}It appears your submission was successful. Even though the server responded OK, it is possible the submission was not processed. Please contact the developer of this form processor to improve this message. Learn More{{/message}}Submitting… โพสต์ติดเทรนด์ ประชาสัมพันธ์3 เดือน ago เทศกาลไหว้พระจันทร์ กับขนมไหว้พระจันทร์ ภูมิภาค2 เดือน ago นครนายก – พิธีแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล ในเขตคณะสงฆ์ภาค 12 (นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว) ภูมิภาค1 เดือน ago 181067พะเยา ชื่นชมดาบตำรวจเมืองพะเยาขายข้าวแกงเสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ18 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านข้าวแกงที่ชื่อ“ข้าวราดแกงจิตราพร”บริเวณข้างที่ทำการไปรษณีย์หนองระบูอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ที่ชาวบ้านแห่ชื่นชมความขยันของดาบตำรวจสุมิตร ใสสม ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองพะเยา ปัจจุบันช่วยราชการตำรวจศาลจังหวัดพะเยาภาพที่ชาวบ้านและลูกค้าเห็นจนติดตาทุกเช้าและชื่นชมดาบตำรวจสุมิตร ใสสมที่กำลังจัดเตรียมเปิดร้านขายข้าวแกงที่ชื่อ “ข้าวราดแกงจิตราพร”ริมถนนพหลโยธิน อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาที่เตรียมข้าวของเครื่องใช้ อาหารพร้อมขายให้กับลูกค้าในแต่ละวันดาบฯสุมิตร กล่าวว่าตนเองและภรรยานางจิตราพร ใสสมจะช่วยกันมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมลำพังเงินเดือนข้าราชการตำรวจเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่พอเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งภรรยาและตนเองนั้นมีฝีมือในการทำอาหาร ก็เลยตกลงมาขายข้าวราดแกงเพื่อเป็นรายได้เสริมโดยตนเองนั้นจะเป็นคนจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆตามที่ภรรยาจะทำอาหารตามเมนูของแต่ละวันตั้งแต่ซื้อของ ตัด หั่น ซอยและจัดบริเวณภายในร้านเพื่อให้ลูกค้ามารับประทานอาหารทั้งช่วยเสิร์ฟอาหาร เติมน้ำ เก็บกวาดร้าน ทำทุกอย่าง โดยจะเริ่มทำกับข้าวตั้งแต่ตีสามของทุกวัน ภรรยาเตรียมเครื่องแกงเตรียมไว้พร้อมปรุงตั้งแต่ 05.30น.เริ่มขายตั้งแต่เวลา07.00 น.จนกระทั่งถึงเวลาไปทำงานก็จะไปปฏิบัติงานทันทีโดยไม่กระทบต่อเวลาทำงานที่ทำซึ่งราคาข้าวแกงเริ่มต้นที่ราคา 30บาทเป็นต้นไปขายหมดทุกวันปิดร้านก็ประมาณ 10.00 น.ทุกวันหยุดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์และต้องขอบอกร้านข้าวแกงจิตราพรที่นี่รสชาติอร่อย ปริมาณมาก ราคาถูก ซึ่งรายได้เสริมได้อยู่ประมาณ 700-800บาทต่อวันซึ่งสร้างความประทับใจ และเสียงชื่นชมจากลูกค้า กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมากและแห่กันมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันและมีความรู้สึกดีๆ ที่เห็นตำรวจไม่อายทำกิน โดยการทำอาชีพเสริมที่สุจริตไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร เสริมรายได้สู้ภัยเศรษฐกิจ ที่สำคัญหา ค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนของลูกสาวทั้งสองคน อีกด้วย ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – พิธีเปิดและปิดโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของผู้ประกอบการส่องแก่งนครนายก พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรแด่วิทยากรและผู้ที่เข้าอบรม ภูมิภาค3 เดือน ago ปราจีนบุรี-เทคนิคปราจีนบุรีมอบโล่เชิดชูเกียรติสถานประกอบการร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ภูมิภาค1 เดือน ago นครนายก – ศิษยานุศิษย์มอบเงินและลอตเตอรี่ ที่ถูกรางวัลให้วัดธรรมปัญญา รวมเป็นเงินจำนวน 122,000 บาทเพื่อใช้ในงานทอดกฐินสามัคคี