Connect with us
ภูมิภาค1 สัปดาห์ ago

มุกดาหาร กลุ่มรักษ์นาโสก ร่วมใจพัฒนา ยื่นหนังสือสนับสนุนสร้างกังหันลมมุกดาหาร – กลุ่มรักษ์นาโสก ร่วมใจพัฒนา ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อแสดงความประสงค์ในการสนับสนุนโครงการกังหันลมที่ตำบลนาโสก เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน15 10 67 ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายแวดล้อม นาโสก ประธานกลุ่มจิตอาสา “ รักษ์นาโสก ร่วมใจพัฒนา “ พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวน 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 1 หมู่ 3 หมู่ 13 และหมู่ 14 ตำบลนาโสก อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร กว่า 200 คน เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อแสดงความประสงค์ในการสนับสนุนโครงการกังหันลม โดยมีนางสาวควีนน์ ชาชิโย ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร ได้ลงมารับหนังสือสนับสนุนโครงการสร้างกังหันลมดังกล่าวนางสาวไอลดา ศาลารักษ์ ตัวแทนชาวบ้านหมู่ 14 ตำบลนาโสก เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางชุมชนได้รับทราบว่า บริษัท พีแอนด์พี วินด์ เอ็นเนอจี้ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้รับอนุญาตในการใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงบังอี่ แปลงที่หนึ่ง ในพื้นที่บ้านนาโสก ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร เพื่อดำเนินการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานลม (โครงการกังหันลม) ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล กำลังทำการศึกษาโครงการในพื้นที่ตำบลนาโสก ในการนี้ กลุ่ม “รักษ์นาโสก ร่วมใจพัฒนา” ซึ่งส่วนมากเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ดำเนินโครงการดังกล่าว จึงได้จัดประชุมเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันที่ 13 ตุลาคม 2567 ณ ห้องประชุมโรงเรียนชุมชนาโสก และได้มีความเห็นว่า ในเมื่อชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเห็นชอบตรงกันว่า “โครงการกังหันลม” เป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์ต่อส่วนรวม ที่ชาวบ้านนาโสก ไม่ควรปล่อยให้เสียโอกาส ดังนั้นพวกเราจึงต้องออกมาแสดงจุดยืนในการการสนับสนุนโครงการกังหันลมนางสาวไอลดา ศาลารักษ์ เปิดเผยอีกว่า ภายหลังได้มีชาวบ้านบางกลุ่ม ออกมาคัดค้านโครงการฯ โดยให้เหตุผลว่า พื้นที่ของโครงการฯ ได้ทับช้อนที่ดินทำกินของชาวบ้าน, การได้รับอนุญาตของบริษัทฯ ไม่ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนกฎหมาย อีกทั้งยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในข้อกังวลตามที่กล่าวอ้างทางบริษัทฯ ได้ทำการแก้ไขปัญหา โดยการเข้ามาแสดงหลักฐานเพื่ออธิบาย พูดคุย เจรจา หลายครั้ง พร้อมทั้งมีการชดเชยเยียวยา ในส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่ยอมรับและพึ่งพอใจ อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ ที่อยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตร รอบโครงการฯ พร้อมทั้งได้จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมีการนำเสนอข้อมูลแก่ชุมชนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น หากแต่ก็ยังมีชาวบ้านบางกลุ่มก็ยังคงไม่พอใจและมีความพยายามที่จะนำบุคคลภายนอกชุมชน ที่ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสีย เข้ามาแทรกแชง ปลุกปั่น และให้ข้อมูลอันก่อให้เกิดความขัดแย้งพร้อมทั้งมีความพยามจะยกระดับปัญหาให้บานปลายขึ้นเรื่อย ๆ อนึ่งตามธรรมเนียมประเพณีวิถีปฏิบัติของชุมชนชาวบ้านนาโสกแต่ดั้งเดิม มีนิสัยรักความสงบ หากเกิดปัญหาขึ้นในชุมชน แนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความขัดแย้งภายในชุมชุนพวกเราคือ การให้คนในชุมชนจะทำการขอมติเสียงข้างมาก และเราทุกคนจะยอมรับในมตินั้น โดยไม่มีบุคคลภายนอกพื้นที่มาเกี่ยวข้อง ดังนั้นเราขอให้ดำเนินการตรวจสอบบุคคลภายนอกพื้นที่ ที่อาจจะเข้ามาสร้างความแตกแยกวุ่นวายให้กับชุมชนของเรา เพราะโดยพื้นฐานนิสัยคนภูไท พวกเราจะรักความสงบ พี่น้องเราจะรักและให้อภัยกันเสมอ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน และหาทางออกร่วมกันภายในชุมชน ในการมาแสดงจุดยืนครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นการออกมาเพื่อแสดงถึงพลังและเจตนารมณ์ของชาวบ้านนาโสกอย่างแท้จริงฉะนั้นในฐานะตัวแทนของชุมชนบ้านนาโสก ซึ่งถือว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบและมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง จึงไม่อาจที่จะนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป เราจึงต้องออกมาเพื่อขอปกป้องสิทธิและโอกาสของชมชนฯ ที่อาจจะสูญเสียไป เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า “โครงการกังหันลม” เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ และจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาชุมชนของพวกเราได้อย่างยังยืนอีกทางหนึ่ง พวกเราจึงขอส่งหนังสือแสดงความประสงค์เพื่อการสนับสนุนโครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานลม ในพื้นที่ตำบลนาโสก ของบริษัท พีแอนด์พี วินด์ เอ็นเนอจี้ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัดนางสาวไอลดา ศาลารักษ์ เปิดเผยต่ออีกว่า ถ้ามีกังหันลมบ้านของเราจะดีขึ้น มีการพัฒนาขึ้น ถนนหนทางก็จะดีขึ้น พวกเราพร้อมที่จะสนับสนุนก้าวไปด้วยกันกับโครงการกังหันลม ที่ผ่านมาเคยเห็นมีแต่ที่อื่นบ้านเรายังไม่มี ถ้าบ้านเรามีอาจจะดีขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็คงจะดีขึ้นไปกว่านี้ หรือแม้ว่าหากเสากังหันลมจะมาตั้งอยู่ในที่ทำกินของเราจริง เราก็พร้อมสนับสนุน และทางบริษัทฯ เอง ก็พร้อมชดเชยเยียวยา ในส่วนเราก็สามารถทำกินได้ตามปกตินางสาวสายรุ่ง อุคำ ชาวบ้านนาโสก หมู่ 1 เปิดเผยว่า ในตอนเริ่มแรกตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ออกมาคัดค้าน เพราะมีที่นาใกล้กับพื้นที่เสากังหันลม ทีแรกก็มีความคิดว่าบริษัทฯ จะมาแย่งเอาที่ดินคืนเพราะว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นป่าสงวน ที่เราทำกินและยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ต่อมาเมื่อทางบริษัทฯ ได้มาพูดคุยอธิบายรายละเอียดโครงการฯ และมีการเจรจาเกี่ยวกับการชดเชยเยียวยา จึงได้เกิดความเข้าใจในโครงการฯ และพร้อมสนับสนุน เพราะเราก็ยังสามารถทำไรทำนาในพื้นที่ได้เหมือนเดิม อีกอย่างก็ได้มีการเดินทางไปดูโครงการกังหันลมที่ร่มเกล้ามาแล้ว ซึ่งโครงการได้สร้างมาแล้ว 6-7 ปี ชาวบ้านแถวนั้นก็ยังสามารถปลูกอ้อยได้เป็นปกติ และมีถนนหนทางที่สะดวกสบาย ในส่วนที่นาของเราเอง เนื่องจากอยู่ในที่สูงต้องอาศัยน้ำจากบนฟ้าอย่างเดียว ถ้ามีถนนในโครงการเกิดขึ้นก็จะมีร่องน้ำที่เป็นคลองข้างทาง มันก็จะเป็นผลดีกับที่นาของเราด้วยซ้ำ ในส่วนที่ว่าเสียงดัง ก็เป็นปกติ ไม่ใช่จะดังเกิน เหมือนพัดลมเบอร์ 1 เบอร์ 2 ของที่บ้าน อาจจะมีเสียงบ้างแต่ไม่ดังหนวกหูนางวาสนา นาโสก ชาวบ้านนาโสก หมู่ 14 เปิดเผยว่า เมื่อได้ทราบว่าที่ดินบริเวณของตนและญาติพี่น้อง ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่พ่อแม่ และได้ทำกินมาโดยตลอด ปัจจุบันเป็นสวนมันสำปะหลังและอ้อย ได้สำรวจให้เป็นพื้นที่ตั้งกังหันต้นที่ 12 และ 13 ตนเองและครอบครัวก็รู้สึกยินดี และสนับสนุนให้โครงการฯ เกิดขึ้น เพราะเป็นโครงการฯ ที่ดี ที่จะมาสร้างความเจริญ จะได้มีถนนหนทาง และทางบริษัทฯ เองก็มีการชดเชยเยียวยา เป็นที่พอใจ จึงไม่ได้มีปัญหาอะไรด้าน นายแวดล้อม นาโสก ประธานจิตอาสา “ รักษ์นาโสก ร่วมใจพัฒนา “ กล่าวว่า พี่น้องที่มาวันนี้มีความต้องการโครงการกังหันลมจริง ๆ พวกเรามีเป้าหมายมีวัตถุประสงค์เดียวกัน ส่วนในเรื่องเสากังหันบางต้นอาจไปทับพื้นที่ของชาวบ้านนั้น คือเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพื้นที่สัมปทานเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ ใครอื่นไม่มีสิทธิ์ในพื้นที่ และเชื่อว่ากรมป่าไม้คงไม่กล้าที่จะทำผิดระเบียบกฎหมายข้อบังคับ ที่จะอนุญาตให้ทางบริษัทฯ ได้เข้าดำเนินโครงการฯ เพราะทางบริษัทฯ ได้ทำตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ ส่วนทางกลุ่มที่มาคัดค้านก็เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่เขาเสียไปนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวมากไป จึงอยากให้มองในส่วนของการพัฒนาชุมชนส่วนรวมในพื้นที่ในรัศมีของกังหันลม เขาจะมีกองทุนสนับสนุนผ่านทางภาครัฐ เข้าสู่ชุมชุนในโอกาสต่อไปทั้งนี้บริษัท พีแอนด์พี วินด์ เอ็นเนอจี้ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้รับอนุญาตในการใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงบังอี่ แปลงที่หนึ่ง บริเวณภูยูง ในพื้นที่บ้านนาโสก ตำบลนาโสก อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่อดำเนินการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานลม (โครงการกังหันลม) เป็นเวลา 30 ปี ครอบคลุมพื้นที่ 383 ไร่ 3 งาน 38 ตารางวา ตั้งแต่งันที่ 4 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 3 เมษายน 2597 จำนวน 13 ต้น ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 90 เมกะวัตต์*อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร 081-5449094

อาชญากรรม

อาชญากรรม3 วัน ago

วอนช่วยน้อง

อาชญากรรม3 วัน ago

นนทบุรี กันต์ กันตถาวร งานเข้าอีกกลุ่มผู้เสียหายหลายสิบคนรวมตัวร้องมูลนิธิหลังพิธีกรดังเป็นพรีเซ็นเตอร์

อาชญากรรม3 วัน ago

นนทบุรี พม.ผงะหลังเข้าช่วยเหลือเด็กวัย 8 ขวบ ถูกแม่ทุบตีเวลาเมาเผยพี่ชายเป็นคนทำคลอดน้องคนเล็กตัดสายสะดือเองกับมือเมื่อวันที่ 21 ต.ค.67 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

อาชญากรรม3 วัน ago

นนทบุรี คลิป รองผกก. วางแผนรวบชายหื่นปีนหลังคาแอบดูสาวพนักงานร้านเค้กอาบน้ำ เจอตำรวจปืนหลังคาหนี สุดท้ายไม่รอดพบยาบ้า 184 เม็ด

อาชญากรรม3 วัน ago

นนทบุรี วงจรปิด เจ้าของร้านชำถูกหลอกซื้อเหล้า-น้ำแข็ง จำนวน 300 บาท โชว์สลิปแต่เงินไม่เข้า ให้เวลา 3 วัน ไม่จ่ายจ่อแจ้งความ

อาชญากรรม4 วัน ago

มุกดาหาร กสทช ยึดอุปกรณ์ลักลอบส่งสัญญาณ ข้ามสะพานแม่น้ำโขงแห่งที่ 2มุกดาหาร – กสทช. จับมือตำรวจ ตม สานยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร”

More อาชญากรรม

การเมือง

Advertisement

ประชาสัมพันธ์

ประชาสัมพันธ์4 วัน ago

บริษัท สนามชนไก่พันล้าน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดศูนย์ศิลปวัฒนธรรมส่งเสริมกีฬาพื้นบ้าน สนามกีฬาชนไก่พันล้าน

ประชาสัมพันธ์6 วัน ago

ปทุมธานี ทายาทรุ่นที่ 3 ตลาดสี่มุมเมือง คว้ารางวัลบุคคลคุณภาพแห่งปี 2024

ประชาสัมพันธ์1 สัปดาห์ ago

ร้อยเอ็ด-สุขใจวัยเก๋ากับรำวงย้อนยุคประเพณีออกพรรษา กวนข้าวทิพย์ ประจำปี 2567วันที 16 ตุลาคม 2567 เวลา 17.30 น. นายนพดล จอมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงานประเพณีออกพรรษา รำวงหรรษา กวนข้าวทิพย์ ประจำปี 2567 ที่บริเวณลานหน้าหอโหวด101 ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด สืบสานส่งเสริมประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่ให้สืบไป โดยมี นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนชาวร้อยเอ็ด เข้าร่วมงานเนืองแน่นกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีพราหมณ์อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การประกวดข้าวทิพย์ การประกวดประดับประทีปโคมไฟ และการเจิมไม้พายกวนข้าวทิพย์ ก่อนที่จะนำน้ำไปผสมกวนข้าวทิพย์ ซึ่งประกอบด้วยสิ่งประกอบอาหาร 108 อย่าง เพื่อให้สาวพรหมจารีนำไปให้แต่ละคุ้มวัดต่างๆ ได้กวนข้าวทิพย์กัน นอกจากนี้ยังมีรำวงย้อนยุค สร้างสุขวัยเก๋า โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำขบวนรำวงหรรษา ม่วนชื่น พร้อมเยี่ยมชมบูทนิทรรศการของชาวคุ้มในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จำนวน 11 คุ้มวัด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานรื่นเริง

ประชาสัมพันธ์2 สัปดาห์ ago

บก.ตม.1 จัดโครงการ “กิจกรรมจิตอาสา บริจาคโลหิต” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

More News

Facebook

ภูมิภาค2 สัปดาห์ ago

นครนายก – พิธีแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล ในเขตคณะสงฆ์ภาค 12 (นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว)

Uncategorized2 สัปดาห์ ago

ชุมพร – พ่อค้าแม่ค้าตลาดถนนคนเดินรถไฟชุมพร ร้อง ส.ส.-ส.ว.ช่วย หลัง รฟท. เตรียมยกเลิกสัญญาเช่าธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514ชุมพร – ตลาดถนนคนเดินรถไฟชุมพรส่อวุ่น! ผู้ประกอบการร้อง ส.ส.-ส.ว.ช่วย หลัง รฟท. เตรียมยกเลิกสัญญาเช่า

อาชญากรรม4 สัปดาห์ ago

มท๑ สั่งปลด นายกคลองหลวง พ้นตำแหน่ง

ภูมิภาค1 สัปดาห์ ago

มุกดาหาร เทศบาลจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษาไทยลาวมุกดาหาร- เทศบาลเมืองมุกดาหาร จัดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษาไทย-ลาว ปี 67 ภายใต้วลี “ ตีช้างน้ำนอง แข่งเรือยาวโบราณ สานประเพณีสองฝั่งโขง เชื่อมโยงไหลกะจู้” เพื่อชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท ระหว่างวันที่ 15 – 17 ตุลาคม 2567 รวม 3 วัน16 10 67 ณ บริเวณลานหน้าอาคารท่าเทียบเรือ ท่าข้ามเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ประธานในพิธีเปิดโครงการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา ปี 2567 พร้อมด้วย นางอัญชลี กัลป์มาพิจิต บุญณราช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดหาร ท่านหลิงทอง แสงตาวัน รองเจ้าแขวง แขวงสะหวันนะเขต ท่านประสงสิน จะเลินสุก เจ้านครไกสอนพมวิหาน ท่านปัฐม์ ปัทมจิตร กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต โดยมีนางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และชาวชุมชนทั้ง 34 ชุมชน เข้าร่วมในครั้งจำนวน 1,500 คนนางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า งานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา ประจำปี 2567 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้วลี “ ดีช้างน้ำนอง แข่งเรือยาวโบราณ สานประเพณีสองฝั่งโขง เชื่อมโยงไหลกะจู้ “ ในวันนี้การจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวในช่วงเทศกาลออกพรรษาของจังหวัดมุกดาหาร ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน ปัจจุบันถือเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญอันดันดับหนึ่งของจังหวัดมุกดาหารโดยเทศบาลเมืองมุกดาหารเป็นผู้รับผิดชอบด้านงบประมาณและอำนวยการในการจัดงานมาโดยตลอด โดยกำหนดวัตถุประสงค์สำคัญเพื่ออนุรักษ์ทำนุบำรุงศิลปะ จารีตประเพณีโบราณ ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรรมอันดีงาม เพื่อเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและกีฬาเรือพายของจังหวัดมุกดาหารและเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวแขวงสะหวันนะเขต สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกับประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยใช้งานประเพณีแข่งเรือยาวในช่วงเทศกาลออกพรรษาในสองฝั่งโขงเป็นสื่อกลาง โดยเฉพาะในวันนี้ประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะจากแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิบไตยประชาชนลาว การจัดงานในปีนี้จะมีการแข่งขันเรือยาวท้องถิ่น และเรือยาวประเภททั่วไปนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวต่ออีกว่า หลังจากเสร็จพิธี จะมีขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานทางบก โดยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร จำนวน 34 ชุมชน รวม 1,200 คน พิธีเบิกน่านน้ำ พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ได้แก่ ศาลหลักเมืองมุกดาหาร ศาลเจ้าพ่อเจ้ามุงเมือง ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องและพระเจ้าองค์หลวง ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานทางน้ำ การประกอบพิธีตีช้างน้ำนอง กลางลำน้ำโขงอย่างสง่างาม และในช่วงกลางคืนมีการไหลกะจู้นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า พิธีเปิดการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา ดีข้างน้ำนอง แข่งเรือยาวโบราณ สานประเพณีของฝั่งโขง เชื่อมโยงไหลกะจู้ ซึ่งถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวจังหวัดมุกดาหาร ที่เทศบาลเมืองมุกดาหารจัดให้มีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี จนเป็นที่ยอมรับ และรับรู้ร่วมกันว่าเป็นงานประเพณีสำคัญของจังหวัดมุกดาหารจนถึงปัจจุบัน ในนามประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร กระผมรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับทีมเรือยาวที่ชนะเลิศประเภททั่วไป รุ่นใหญ่ 55 ฝีพาย ในปีนี้ ที่สำคัญประเพณีการแข่งขันเรือยาวในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาของจังหวัดมุกดาหาร ยังเป็นสื่อกลางกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารกับประชาชนชาวแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิบไตยประชาชนลาว ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้มากขึ้น ทั้งยังเป็นการส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานการแข่งขันกีฬาเรือพายของจังหวัดมุกดาหาร ให้เข้าสู่สากลได้อีกทางหนึ่งแขวงสะหวันเขตและจังหวัดมุกดาหาร จะยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้น เพราะเรามีแม่น้ำโขงเสมือนสายโลหิตที่หล่อหลอมใจและเชื่อมโยงประเพณีวัฒนธรรมร่วมกันมาแต่บรรพกาล ชื่นชมเทศบาลเมืองมุกดาหาร ที่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ ทำนุบำรุง ส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามที่เชื่อมโยงทั้งสองประเทศ และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวให้กลับฟื้นมาได้อีกครั้งหนึ่งสำหรับงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา แบ่งเรือแข่งและฝีพาย ออกเป็น 3 รุ่น 1. รุ่นจิ๋ว 12 ฝีพาย เงินรางวัล ตามลำดับดังนี้ รางวัลชนะเลิศ จำนวน 15,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 1 จำนวน 10,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 2 จำนวน 5,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 3 จำนวน 3,000 บาท 2.รุ่นกลาง 40 ฝีพาย เงินรางวัล ตามลำดับดังนี้ รางวัลชนะเลิศ จำนวน 30,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 1 จำนวน 20,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 2 จำนวน 10,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 3 จำนวน 5,000 บาท 3. รุ่นใหญ่ 55 ฝีพาย เงินรางวัล ตามลำดับดังนี้ รางวัลชนะเลิศ จำนวน 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลรองชนะเลิศที่ 1 จำนวน 50,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 2 จำนวน 30,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศที่ 3 จำนวน 20,000 บาท และมีเรือยาวเข้าแข่งขันทั้งสิ้น รุ่นจิ๋ว จำนวน 32 ลำ รุ่นกลาง จำนวน 14 ลำ และรุ่นใหญ่ จำนวน 16 ลำ สำหรับเรือยาวที่เข้าแข่งขันมาจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร และแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว …***อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร 081-5449094

อาชญากรรม4 สัปดาห์ ago

ศาลปกครองยกฟ้อง ทุกข้อกล่าวหา

ภูมิภาค2 สัปดาห์ ago

นครนายก – พิธีแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะตำบล ในเขตคณะสงฆ์ภาค 12 (นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว)

Uncategorized2 สัปดาห์ ago

ชุมพร – พ่อค้าแม่ค้าตลาดถนนคนเดินรถไฟชุมพร ร้อง ส.ส.-ส.ว.ช่วย หลัง รฟท. เตรียมยกเลิกสัญญาเช่าธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514ชุมพร – ตลาดถนนคนเดินรถไฟชุมพรส่อวุ่น! ผู้ประกอบการร้อง ส.ส.-ส.ว.ช่วย หลัง รฟท. เตรียมยกเลิกสัญญาเช่า

อาชญากรรม4 สัปดาห์ ago

มท๑ สั่งปลด นายกคลองหลวง พ้นตำแหน่ง

ภูมิภาค1 สัปดาห์ ago

มุกดาหาร เทศบาลจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษาไทยลาวมุกดาหาร- เทศบาลเมืองมุกดาหาร จัดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษาไทย-ลาว ปี 67 ภายใต้วลี “ ตีช้างน้ำนอง แข่งเรือยาวโบราณ สานประเพณีสองฝั่งโขง เชื่อมโยงไหลกะจู้” เพื่อชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท ระหว่างวันที่ 15 – 17 ตุลาคม 2567 รวม 3 วัน16 10 67 ณ บริเวณลานหน้าอาคารท่าเทียบเรือ ท่าข้ามเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ประธานในพิธีเปิดโครงการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา ปี 2567 พร้อมด้วย นางอัญชลี กัลป์มาพิจิต บุญณราช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดหาร ท่านหลิงทอง แสงตาวัน รองเจ้าแขวง แขวงสะหวันนะเขต ท่านประสงสิน จะเลินสุก เจ้านครไกสอนพมวิหาน ท่านปัฐม์ ปัทมจิตร กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต โดยมีนางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และชาวชุมชนทั้ง 34 ชุมชน เข้าร่วมในครั้งจำนวน 1,500 คนนางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า งานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา ประจำปี 2567 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้วลี “ ดีช้างน้ำนอง แข่งเรือยาวโบราณ สานประเพณีสองฝั่งโขง เชื่อมโยงไหลกะจู้ “ ในวันนี้การจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวในช่วงเทศกาลออกพรรษาของจังหวัดมุกดาหาร ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน ปัจจุบันถือเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญอันดันดับหนึ่งของจังหวัดมุกดาหารโดยเทศบาลเมืองมุกดาหารเป็นผู้รับผิดชอบด้านงบประมาณและอำนวยการในการจัดงานมาโดยตลอด โดยกำหนดวัตถุประสงค์สำคัญเพื่ออนุรักษ์ทำนุบำรุงศิลปะ จารีตประเพณีโบราณ ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรรมอันดีงาม เพื่อเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและกีฬาเรือพายของจังหวัดมุกดาหารและเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวแขวงสะหวันนะเขต สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกับประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยใช้งานประเพณีแข่งเรือยาวในช่วงเทศกาลออกพรรษาในสองฝั่งโขงเป็นสื่อกลาง โดยเฉพาะในวันนี้ประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะจากแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิบไตยประชาชนลาว การจัดงานในปีนี้จะมีการแข่งขันเรือยาวท้องถิ่น และเรือยาวประเภททั่วไปนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวต่ออีกว่า หลังจากเสร็จพิธี จะมีขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานทางบก โดยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร จำนวน 34 ชุมชน รวม 1,200 คน พิธีเบิกน่านน้ำ พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ได้แก่ ศาลหลักเมืองมุกดาหาร ศาลเจ้าพ่อเจ้ามุงเมือง ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องและพระเจ้าองค์หลวง ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานทางน้ำ การประกอบพิธีตีช้างน้ำนอง กลางลำน้ำโขงอย่างสง่างาม และในช่วงกลางคืนมีการไหลกะจู้นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า พิธีเปิดการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา ดีข้างน้ำนอง แข่งเรือยาวโบราณ สานประเพณีของฝั่งโขง เชื่อมโยงไหลกะจู้ ซึ่งถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวจังหวัดมุกดาหาร ที่เทศบาลเมืองมุกดาหารจัดให้มีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี จนเป็นที่ยอมรับ และรับรู้ร่วมกันว่าเป็นงานประเพณีสำคัญของจังหวัดมุกดาหารจนถึงปัจจุบัน ในนามประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร กระผมรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับทีมเรือยาวที่ชนะเลิศประเภททั่วไป รุ่นใหญ่ 55 ฝีพาย ในปีนี้ ที่สำคัญประเพณีการแข่งขันเรือยาวในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาของจังหวัดมุกดาหาร ยังเป็นสื่อกลางกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารกับประชาชนชาวแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิบไตยประชาชนลาว ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้มากขึ้น ทั้งยังเป็นการส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานการแข่งขันกีฬาเรือพายของจังหวัดมุกดาหาร ให้เข้าสู่สากลได้อีกทางหนึ่งแขวงสะหวันเขตและจังหวัดมุกดาหาร จะยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้น เพราะเรามีแม่น้ำโขงเสมือนสายโลหิตที่หล่อหลอมใจและเชื่อมโยงประเพณีวัฒนธรรมร่วมกันมาแต่บรรพกาล ชื่นชมเทศบาลเมืองมุกดาหาร ที่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ ทำนุบำรุง ส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามที่เชื่อมโยงทั้งสองประเทศ และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวให้กลับฟื้นมาได้อีกครั้งหนึ่งสำหรับงานประเพณีแข่งเรือยาวออกพรรษา แบ่งเรือแข่งและฝีพาย ออกเป็น 3 รุ่น 1. รุ่นจิ๋ว 12 ฝีพาย เงินรางวัล ตามลำดับดังนี้ รางวัลชนะเลิศ จำนวน 15,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 1 จำนวน 10,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 2 จำนวน 5,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 3 จำนวน 3,000 บาท 2.รุ่นกลาง 40 ฝีพาย เงินรางวัล ตามลำดับดังนี้ รางวัลชนะเลิศ จำนวน 30,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 1 จำนวน 20,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 2 จำนวน 10,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 3 จำนวน 5,000 บาท 3. รุ่นใหญ่ 55 ฝีพาย เงินรางวัล ตามลำดับดังนี้ รางวัลชนะเลิศ จำนวน 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลรองชนะเลิศที่ 1 จำนวน 50,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศที่ 2 จำนวน 30,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศที่ 3 จำนวน 20,000 บาท และมีเรือยาวเข้าแข่งขันทั้งสิ้น รุ่นจิ๋ว จำนวน 32 ลำ รุ่นกลาง จำนวน 14 ลำ และรุ่นใหญ่ จำนวน 16 ลำ สำหรับเรือยาวที่เข้าแข่งขันมาจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร และแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว …***อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร 081-5449094

อาชญากรรม4 สัปดาห์ ago

ศาลปกครองยกฟ้อง ทุกข้อกล่าวหา

Advertisement

loader-image
Bangkok, Thailand
Bangkok, TH
7:17 pm, ต.ค. 25, 2024
temperature icon 32°C
broken clouds
Humidity 64 %
Pressure 1007 mb
Wind 2 mph
Wind Gust Wind Gust: 2 mph
Clouds Clouds: 78%
Visibility Visibility: 10 km
Sunrise Sunrise: 6:10 am
Sunset Sunset: 5:53 pm

Advertisement





Copyright © todaynews2017.com