Connect with us

อาชญากรรม

Published

on

นนทบุรี ต่อข่าว เปิดใจนายโอ ลูกหนี้ ถูกเจ้าหนี้ทวงหนี้ถึงหน้าบ้าน เผยเป็นหนี้พนันออนไลน์ ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

 จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 68 ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียน จากนายเจมส์ อายุ 32 ปี และน.ส.เดียร์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็น 2 สามีภรรยา ที่ถูกเจ้าหนี้ พาพรรคพวกกว่า 5 คน บุกมาทวงหนี้ และเข้ามารุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 68 แจ้งความไว้ที่สภ.ปากเกร็ด

 ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 20 ก.พ. 68 ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายโอ (น้องชายของน.ส.เดียร์) ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า ต้นเรื่องเกิดจากนายบอยเป็นเพื่อนของเพื่อนแฟน ไปเจอกันที่งานพลุช่วงประมาณ 30 พ.ย. 67 หลังเจอกันได้มีการชักชวนให้ตนเล่นการพนัน โดยอ้างว่าให้เครดิตฟรี เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ตนเล่นไป ได้เงินมาครั้ง 30,000-40,000 บาท จนได้ยอดเงินเกือบ 200,000 บาท แต่ตนได้ให้พี่เดียร์เอาไปเล่นต่อ ผลสรุปคือเล่นเสียทั้งหมด พอถึงกำหนดรอบที่ต้องจ่ายในส่วนที่ตนเล่นได้มาก็นำไปใช้จ่ายเกือบหมดแล้ว เมื่อถึงรอบจ่ายนายบอยโทรเข้ามาโวยวายว่าตนโกง ซึ่งตนพยายามอธิบายว่าตนไม่ได้โกง ส่วนที่พี่เดียร์เล่นเสียไปจะชำระแทนให้ในฐานะเจ้าของบัญชี แต่นายบอยโวยวาย ด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง วันที่ 1 ธ.ค. 67 นายบอยได้มีการบุกรุกเข้ามาที่บ้าน โวยวายเสียงดัง ตนจึงพูดว่าจะใช้หนี้ให้ก่อน 50,000 บาท แล้วพรุ่งนี้จะใช้อีก 40,000 บาท แต่ต้องมาหาตนที่บ้านทุกวัน เพื่อจะชำระคืนให้วันละ 30,000 บาท และมาทะเลาะกันแบบลูกผู้ชาย แต่ไม่ใช่มาด่ากันรุนแรงเกินไป หลังจากนั้นนายบอยได้หายไป 2 เดือน

 นายโอ กล่าวต่ออีกว่า วันที่ 5 ก.พ. นายบอยกลับมาที่บ้านอีกครั้ง มากับน้าคนหนึ่ง เข้ามาในหมู่บ้านประมาณ 20.00-21.00 น. ตนนั่งสังสรรค์อยู่ นายบอยเข้ามาถามว่าเมื่อไหร่จะใช้หนี้ ด่าแฟนของตนหยาบคาย ทั้งที่แฟนตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร แฟนตนจึงโมโหเดินไปตบที่ใบหน้า ประมาณ 1-2 ครั้ง ส่วนตนได้เข้าไปห้ามและขอว่าจะคุยเอง ตนจึงส่งข้อความไปเจรจาอีกครั้ง พร้อมที่จะไกล่เกลี่ยแต่ขอให้เข้ามาที่บ้านดีๆ ในระหว่างนั้นนายบอยได้มีการพาพวกมาตีลูกน้องของตน ทุกคนในหมู่บ้านเห็น ตนจึงคิดว่าถ้ามาอีกคงต้องดำเนินคดีแล้ว โทษฐานที่เข้ามาบุกรุก พอมาถึงเหตุการณ์ตามที่เห็น

 นายโอ กล่าวต่ออีกว่า ลูกน้องตนไม่ได้จะตีด้วยซ้ำ ตามคลิปแค่จะเดินเข้าบ้านเท่านั้น แต่อีกฝ่ายดันมาชี้หน้าด่าจึงเกิดเหตุทะเลาะวิวาท หนี้ในส่วนของตนจบไปแล้ว แต่ส่วนที่เล่นเสียคือพี่สาว แต่เขาไม่ฟังเหตุผล พูดจาหมิ่นประมาทแฟนตน ทำให้ตนรูัสึกไม่พอใจ ในวันนี้ที่มาหาเรื่องตนก็ยังพยายามพูดให้คนของตนมาทำสัญญารับสภาพหนี้ เงินเหลือเพียง 100,000 กว่าบาทเท่านั้น เดือนละเท่าไหร่ก็ยอมจ่าย แต่การที่เข้ามาทำแบบนี้ คิดว่าเกินไป ทั้งที่ตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร อายคนในหมู่บ้าน ทั้งนี้แล้วตนโมโหที่มาพูดจาไม่ดีใส่แฟนของตนมากกว่า หากมีการพูดคุยกันตั้งแต่แรกเรื่องราวคงจบไปแล้ว แต่ตอนนี้เรื่องบานปลายไปไกลมาก ทั้งที่ตนก็ยินดีจะเจรจา แต่ก็ยังพูดจาไม่ดี ทำตัวท้าทายกฎหมาย วันที่เกิดเหตุล่าสุดตนไม่ได้อยู่ ตนไปโรงพยาบาล จริงๆนัดกันไว้ช่วงเย็นแต่ดันมาก่อน ตอนนี้ตนรู้สึกอับอายและเจ็บใจมาก อยากจะทำแบบนั้นกับอีกฝ่ายคืน แต่อีกมุมคิดว่าไม่สมควร แต่แค่อยากจะจบเรื่องเท่านั้น ส่วนเงินก็ยังยืนยันจะใช้คืน หากมีการพูดคุยกันดีๆ และในส่วนของคดีก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 ด้าน นายบอย (เจ้าหนี้) ให้ข้อมูลกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตั้งแต่มีปัญหาเรื่องเงินกันมา ตนได้มีการพูดคุยกับคู่กรณี และตกลงคืนเงินกันก้อนแรก วันที่ 30 พ.ย. 67 จำนวน 50,000 บาท วันที่ 1 ธ.ค. 67 โอนคืนอีก 40,000 บาท และตกลงว่าวันต่อไปเรื่อยๆจะโอนวันละ 40,000 บาท จนกว่าจะครบ แต่หลังจากนั้นตนได้มีการไปขึ้นศาล และถูกดำเนินคดี จึงไม่ได้มีการติดต่อกับคู่กรณีอีกประมาณ 2 เดือน พอตนกลับมาก็ได้ไปติดตามทวงถามเรื่องเงินที่บ้าน เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 68 ไปกับผู้ชายเสื้อสีน้ำเงินตามภาพ จากนั้นตนก็โดนฝั่งคู่กรณีรุมล้อม และมีการปะทะกัน มีน.ส.แนน กับ น.ส.กวาง (เดียร์) มาข่วนหน้าตน กระชากแว่น และกระโดดถีบตนด้วย ตนเห็นท่าไม่ดีจึงจะกลับบ้าน แต่นายเจมส์ กับนายโอไม่ยอมจะให้พูดคุยกัน ซึ่งตอนนั้นมันไม่สามารถจะพูดคุยกันได้แล้ว ตนจึงเดินทางไปแจ้งความและไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย ในมุมมองของของตนเป็นเจ้าหนี้เมื่อเข้าไปทวงถามถึงหนี้สินกลับถูกทางคู่กรณีกระทำแบบนี้ ตนควรรู้สึกอย่างไร

 นายบอย (เจ้าหนี้) ให้ข้อมูลกับทีมข่าว เพิ่มเติมว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนจึงได้เข้าไปทวงถามถึงหนี้สินใหม่อีกครั้ง ตนไม่ได้เข้าบ้านของคู่กรณี และคู่กรณีสมัครใจจะออกมาทะเลาะวิวาทกับตนหน้าบ้าน ตนคิดว่าหากคู่กรณีต้องการคืนเงินสามารถคืนได้เลย เลขบัญชีตนก็มี แต่ที่ผ่านมาไม่เคยติดต่อมาพูดคุยเพื่อจะคืนเงิน ตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องเป็นข่าว และตนยังมองว่าตัวเองไม่ได้ผิดส่วนไหนเลย ตนพาพรรคพวกเข้าไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ตนไม่ได้บุกรุกเข้าไปทำอะไรในบ้าน ตนเข้าไปในหมู่บ้านมีการแลกบัตรอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องที่มีการขับรถชนน.ส.เดียร์ ตนยืนยันว่าไม่ได้ขับรถชน ตนต้องการที่จะกลับบ้าน แต่ดันมายืนขวางรถของตน เพื่อจะทะเลาะต่อ รถตนราคา 3-4 ล้าน โดนทุบกระจกยังไม่เคยออกมาโวยวายอะไร ที่ผ่านมาคู่กรณีทำร้ายตนก่อน ซึ่งตนไม่ได้ทำอะไรแค่ต้องการทวงถามหนี้สินของตนคืน

*** หมายเหตุ : ย้ำ! เบลอหน้านายโอด้วยครับ

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี



Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Copyright © todaynews2017.com