พิจิตรธารน้ำใจหลั่งใหลช่วย6ชีวิตยากไร้บ้านถูกตัดไฟกินข้าวกับเกลือพริกป่น
วันที่ 28 มิถุนายน 2567 ความคืบหน้าจากกรณีที่ พระเมธีธรรมประนาท “ท่านเจ้าคุณปรีชา” เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง และครูของโรงเรียนบ้านหนองขาว ตั้งอยู่ที่ 99 หมู่ 9 ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กนักเรียนและพบเห็นครอบครัวของลูกศิษย์ที่มี 6 ชีวิต ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ด้วยความยากลำยากแร้นแค้น ซึ่ง ความทุกข์ยากของเด็กๆ ในครอบครัวนี้ เกิดจาก นายสารัช ขำเมือง อายุ 32 ปี “ผู้เป็นพ่อ” ซึ่งป่วยเป็นโรคไทรอยด์และกล้ามเนื้ออ่อนแรง และ น.ส.ศิริพร พลับพลาทอง อายุ 31 ปี “ผู้เป็นแม่” มีลูกทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย เด็กหญิง อมรรัตน์ ขำเมือง “น้องจ๋า” อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม. 2 , เด็กชายภาณุพงศ์ ขำเมือง “น้องเน็ท” อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป. 5 , เด็กหญิงวัณวิสา ขำเมือง “น้องจูน” อายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป. 2 , ด็กชายพัชรพล ขำเมือง “น้องไนซ์” อายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 โดยบ้านที่อยู่อาศัยถูกตัดไฟฟ้าใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมานานเกือบ 2 ปี ด้วยความยากจนจึงไม่มีเงินไปจ่ายค่าไฟ รายได้ที่ได้มาก็แค่พอกินไปวันๆ บางวันคนในครอบครัวนี้ก็ต้องอดข้าวหรือถ้ามีข้าวสารหุงกินก็จะกินข้าวกับผักบุ้งต้มใส่กับผงเครื่องปรุงบะหมี่สำเร็จรูป ฟังเรื่องรันทดแล้วน่าเศร้าใจเป็นยิ่งนัก
ล่าสุด นายกฤตชัย สุวรรณจินดา ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง รายงานว่า บ้านที่ถูกตัดไฟขณะนี้การไฟฟ้าอำเภอวชิรบารมีได้ไปต่อกระแสไฟฟ้าให้ใช้ได้แล้ว จึงทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา 6 ชีวิตในครอบครัวนี้ได้เห็นแสงสว่างในยามค่ำคืนเป็นครั้งแรกในรอบ 2-3 ปี
ผู้สื่อข่าวได้ติดตามดู เด็กหญิง อมรรัตน์ ขำเมือง “น้องจ๋า” อายุ 14 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.2 ในโรงเรียนบ้านหนองขาว แต่ทุกวันศุกร์โรงเรียนก็จะพามาเรียนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิจิตร แผนกคหกรรมศาสตร์ โดยในวันนี้เรียนวิชาการจับจีบผ้าและผูกผ้า หลักสูตรระยะสั้น 90 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการทำ MOU ของ โรงเรียนบ้านหนองขาว กับ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิจิตร ซึ่ง เด็กหญิง อมรรัตน์ “น้องจ๋า” ก็เล่าว่า ก่อนหน้านั้นตื่นแต่เช้าขึ้นรถมาโรงเรียนก็ไม่ได้กินข้าวเช้าที่บ้านและมาที่วิทยาลัยก็ไม่มีเงินค่าขนมและค่าข้าวมาซื้อกินที่วิทยาลัย ก็อาศัยเพียงกินน้ำประทังความหิว จนกระทั่งเมื่อวันวานที่ผ่านมาได้เป็นข่าวออกสื่อได้รับเงินบริจาค เมื่อวานที่บ้านจึงมีเงินซื้อกับข้าวมาทำกินและวันนี้แม่ก็ให้เงินติดตัวมาที่วิทยาลัย 40 บาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ครูที่วิทยาลัยอาชีวศึกษา ได้ฟังได้ยินถึงกับอึ้งเนื่องจากเด็กมาเรียนแค่สัปดาห์ละ 1 วัน เท่านั้นเอง
ในขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังฟังเรื่องเศร้าของ เด็กหญิง อมรรัตน์ “น้องจ๋า” ก็ได้รับการประสานจาก คุณไพศาล เจ้าของร้านอาหาร “เลิศรส” ในตลาดเมืองพิจิตร โทรมาแจ้งจะบริจาคเงินในนามชมรมพิจิตรธุรกิจสัมพันธ์ และให้มารับเงินที่ร้าน “เลิศรส” ซึ่ง คุณไพศาล เจ้าของร้านอาหาร “เลิศรส”ก็ได้ทำทอดมันปลา ลูกชิ้นปูผัดผักโสภณ และข้าวผัดปู-กุ้ง ให้กินอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่ง เด็กหญิง อมรรัตน์ “น้องจ๋า” บอกว่าอาหารมื้อนี้เป็นของกินที่อร่อยที่สุดในชีวิตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้กินของอร่อยเช่นนี้และยังขอห่อใส่ถุงไปฝากน้องๆ ที่บ้าน อีกด้วย
ในส่วนของความช่วยเหลือและธารน้ำใจจากผู้ใจบุญที่มีเมตตายังคงหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ซึ่งคงเพียงพอกับการปรับปรุงที่อยู่อาศัยและมีทุนที่จะใช้ให้พ่อและแม่ของเด็กๆ ได้ทำทุนเพื่อทำมาหากินดูแลครอบครัวและเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ทั้ง 4 ชีวิต ได้อยู่รอดตลอดรอดฝั่งด้วยต่อไป
สำหรับท่านใดที่มีสิ่งของเหลือใช้หรือเสื้อผ้าที่อยากจะบริจาคให้เด็กทั้ง 4 คนนี้ หรือเผื่อแผ่บริจาคช่วยเด็กๆ คนอื่นๆ ในโรงเรียนบ้านหนองขาว สามารถสอบถามรายละเอียด โทร 085-7267119 คุณครูพรรณงาม รอดฟ้า ร.ร.บ้านหนองขาว ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร
สิทธิพจน์/พิจิตร/
