ชุมพร – ครูถูกทำร้ายภายในโรงเรียน สาวหมัดไม่ยั้ง
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
จากรณี นายเอกชัย เชื้อพราหมณ์ได้ลง Facebook ส่วนตัว แจ้งเตือนแจ้งเตือนลูกๆนักเรียนในโรงเรียนปากน้ำหลังสวนวิทยาของเรานะครับ หากพบเจอชายคนดังกล่าวในคลิป มาแสดงลักษณะเหมือนจะมาเอาของในโรงเรียน ขอให้ลูกๆอย่าไปห้ามเองนะครับ ให้แจ้งท่าน ผอ. หรือครูแทน อย่าเข้าไปเสี่ยงนะลูก อันตรายกับตัวเอง ครูเป็นห่วงครับ
วันที่ 29 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบผู้เสียหายนายเอกชัย เชื้อพราหมณ์ ครูฟิสิกส์ โรงเรียนปากน้ำหลังสวนวิทยา อายุ 29 ปี สอนระดับ ม.ปลาย ณ โรงเรียนปากน้ำหลังสวนวิทยาที่ถูกทำร้ายภายในโรงเรียน และได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน จังหวัดชุมพร
นายเอกชัย เชื้อพราหมณ์ ครูฟิสิกส์ 0862739210โรงเรียนปากน้ำหลังสวนวิทยา อายุ 29 ปี สอนระดับ ม.ปลาย เล่าว่า ก็คือผมในตอนนั้นตอนช่วงเย็นมาเห็นชายคนหนึ่งนะครับ พาลูกน้องมา 2 คนพยายามจะเอาก้อนหินก้อนกรวดที่ผมไปขออนุเคราะห์มาจากองค์กรภายนอกนั่นคือแขวงการทางโดยจุดประสงค์เพื่อที่นำหินโดยขอก็เพื่อที่จะทำสนาม เปตองให้ลูกๆนักเรียนในวันกีฬาสีภายในที่จะทำจัดขึ้นในเดือนหน้าเมื่อมาพบเห็นการกระทำดังกล่าว ก็แจ้งเตือนชายคนดังกล่าวแล้วนะครับว่าจุดประสงค์ที่ผมไปขอหินมาเพื่อจัดทำสนามเปตองนะอย่าเอาไปไหนซึ่งเมื่อเดินมาดูแล้วลูกน้องของชายดังกล่าวเขาได้ถมหินไปแล้ว 1กระบะผสมปูน นะครับแล้วก็กระบะที่ 2 กำลังขนย้ายขึ้นรถแล้วก็ผมก็พยายามจะห้ามที่เอากระบะที่ 2 นั่นแหละว่ากระบะแรกถมไปแล้วไม่เป็นไรหรอกเพราะว่าเขาเหมือนเขาก็พูดบอกแล้วว่าถมไปแล้วจะเอาคืนยังไงแต่ผมก็คือบอกแล้วว่ากระบะที่ 2 ให้เอามาคืนที่เดิมกระบะที่ 2 นั้นอีก เขาก็บอกว่าโอเค ตกลงแต่ตกลงของเขาคือเขาก็เทประชดตรงนั้น อีกครับก็คือลงไปตรงนั้นแล้วผมก็คิดในใจว่าเอาแล้วเดี๋ยวถ้าห้ามไม่ฟังอะไรแบบนี้ก็น่าจะมีกระบะ 3 และ 4 ไปจนหมดกองนี้ครับผมก็เลยแจ้งเตือนไปว่าถ้าแบบนั้นมันเป็นการขโมย
เมื่อสิ้นคำว่าขโมยเท่านั้นเขาก็ต่อยผมซึ่งผมมองว่ามันก็ผมคิด ในใจว่ามันก็คือการขโมยสาเหตุที่ผมกล้าพูดคำนี้เพราะว่าผมโทรหาท่าน ผอ. โรงเรียนปากน้ำหลังสวนวิทยา รวมถึงคุณครูที่รับผิดชอบเกี่ยวกับอาคารสถานที่หรือหัวหน้ากลุ่มสาระการศึกษา เขาบอกว่าไม่ได้อนุญาตให้ใครมาเอาตรงนี้ไม่มีใครมาขอหรือทำหนังสืออะไรมาเลยดังนั้นผมเมื่อผมเจอแบบนี้แล้วผมก็ต้องปกป้องทรัพย์สินเพื่อลูกๆนักเรียนของเราอย่างเต็มที่ ทีนี้เมื่อบอกไปแบบนั้นแล้วเค้าต่อยเข้ามาตอนแรกผมไม่ คิดว่าเขาจะต่อยเพราะเราอยู่ในยุคที่ว่าเป็นปัญญาชนน่าจะคุยแก้ปัญหากันได้หมัดแรกก็เลยโดนเข้าไปแล้วก็หมัดอื่นๆเขาก็พยายามจะต่อยมาเรื่อยๆแต่บังเอิญมีคุณครูน้องผู้หญิงนะครับที่คอยปัดป้องแล้วก็คอยห้ามอยู่ใกล้ๆแล้วก็มาเห็นทีหลังว่ามีครูอีกท่านนึ่งคอยถ่ายคลิปเอาไว้ก็โชคดีไปหน่อยนึกว่าจะโดนต่อยฟรี ทีนี้หลังจากนั้นก็มีพลเมืองดี ขับจักรยานเข้ามาแล้วก็ท่านเห็นเขาก็เลยโทรตามสายตรวจหลังจากนั้นสายตรวจก็มาระงับเหตุและแยกย้ายไป
ทีนี้จะให้แก้ข่าวหน่อยที่ว่าดูข่าวช่องไหนมาคือโดยผมไม่ได้เห็นเองหรอกครับเพราะว่าในขณะที่เกิดกระบวนการนี้ผมก็เครียดนักเรียนเขาแคปมาให้ดูว่า ตอนนี้คอมเมนต์ชาวเน็ตเขาดูจากสื่อเพราะว่ามีข่าวออกไปว่าดูข่าวมาช่อง ใหญ่ช่องหนึ่ง เค้าบอกว่าชายคนดังกล่าวเป็นผู้รับเหมาแล้วเทผิดจุดแล้วคุณครูไปบอกเขาว่าเทผิดจุดแบบนี้ เท่ากับขโมย ซึ่งไม่ใช่ชาวเน็ตก็ว่าไปกันใหญ่เลยครูปากดีนู่นนี่นั่นแต่แต่ถ้าหากน้ำเสียงในนั้นมันแรงไปผมขอโทษด้วยนะครับแต่จริงๆแล้วก็คือเจตนาผมเพียงอยากให้เข้าใจว่าเค้าไม่ใช่คนรับเหมาแล้วเขาไม่รู้คือใครผมเป็นครูที่จะรักษาผลประโยชน์ของใช่ครับรักษาผลประโยชน์นั่นคือจุดเดียวเลยที่ผมคิดถวายหัวให้เลยจนลืมคิดไปว่าถ้าเขามีปืนอะไรผมก็ตายเปล่าๆครับซึ่งนั่นแหละมันทำให้ผมต้องพูดคำว่าขโมยเพราะไม่รู้คือว่าใครก็เข้าออกบริเวณโรงเรียน ถ้าเค้าขนหินจนหมดแล้ว ที่เราไปขออนุเคราะห์มาแล้วเราจะขอมาผิดวัตถุประสงค์อีกโดยไม่ได้ทำสนามกีฬาให้เด็กๆ จนผมมาโดนต่อย ก็หลังจากนั้นไปแจ้งความในวันนั้นเลยครับตำรวจตำรวจก็รับตอนแรกก็ไม่รู้ชื่อสกุล วันต่อมาก็คือเมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดูจากคลิปที่เป็นหลักฐานที่ผมส่งให้ท่านไปให้ผมไปชีภาพถ่าย ก็เลยทราบชื่อนามสกุลแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเดี๋ยวจะรีบดำเนินการให้แล้วก็จะเรียกผู้ก่อเหตุ โดยส่งหมายเรียกไปก่อนเพราะมันเป็นข้อหาเบาๆอะไรสักอย่างนึ่ง ตำรวจให้ความช่วยเหลืออย่างดี แต่กลัวคือจุดประสงค์ที่ลงคลิปไปใน Facebook ก็คือกลัวครับกลัวไม่ได้รับความปลอดภัยของตัวเองกลัวความปลอดภัยของตัวเองแต่ที่เหนือกว่าความ ปลอดภัยของตัวเองคือความปลอดภัยของนักเรียนเพราะว่าช่วงนี้ลูกๆนักเรียนจะซ้อมกีฬาอยู่ตอนเย็นแต่ถ้าหากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ผมนะครับถ้าเป็นลูกๆมาเห็นว่าใครไม่รู้มาเอาของในโรงเรียนแล้วลูกๆไปห้าม และถ้าเขาเป็นเด็กและถ้าชายคนดังกล่าวทำร้ายเด็ก ครับผมคิดแบบนั้น ในตอนนั้นก็เลยลงเตือนภัยไว้เพราะตอนนั้นที่ลงเตือนภัยก็ไม่รู้ว่าชายดังกล่าวคือใครด้วยทีนี้ก็ต้องรอตำรวจครับก็ต้องรอตำรวจดำเนินการ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากน้ำหลังสวน ได้รับแจ้งความในคดีดังกล่าวแล้วและเร่งดำเนินตามกฎหมายต่อไป
