นนทบุรี ด่าแม่แซวน้องเลยต้องสั่งสอนซะหน่อย ! สุดท้ายตำรวจนักข่าวเป็นกาวใจกอดคอดีกันเสียค่าเยียวยา 5,000 จบ
(เบลอหน้าคู่กรณีทั้งสองฝ่ายด้วยครับ)
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 5 กรกฎาคม 67 นายต้น อายุ 36 ปี ได้พานายตั้น อายุ 34 ปี ผู้เป็นน้องชายที่ถูกทำร้ายจนหน้าตาบวมปูดได้รับบาดเจ็บ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.อลงกรณ์ ปาลวัฒน์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี หลังน้องชายถูกชายหนุ่มกับเพื่อนขับรถเบนซ์ เข้ามารุมทำร้ายขณะนั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งภายในซอยประชาราษฎร์ 3 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยคนที่ทำร้ายน้องชายอ้างว่าน้องชายตนเองชอบแซวน้องสาวของเขาและไปด่าแม่เขา ทำให้เขาไม่พอใจเลยมารุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยนำตัวคนที่ทำร้ายน้องชายมาดำเนินคดีให้ด้วย
นายตั้น คนเจ็บเผยว่า ตนมีอาชีพขี่วินจยย. หน้าปากซอยดังกล่าว ก่อนถูกทำร้าย ได้มีนายนนท์ อายุ 31 ปี คนที่อยู่ในซอยเดียวกัน พร้อมกับเพื่อนชายขับรถเบนซ์สีดำ ตรงเข้ามาที่ร้านอาหารแล้วทำร้ายตนเองด้วยการชกต่อยเอาศีรษะโขกกับโต๊ะจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ก่อนจะขึ้นรถ ขับหนีออกไป โดยพูดกับตนว่าอย่ามาด่าแม่ และใช้สายตามองน้องสาวตนเองในทางที่ไม่ดี
เวลาต่อมานายนนท์ พร้อมเพื่อนชายและน้องสาวคือนางสาวพิมพ์ อายุ 23 ปี นักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ ปี 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านหัวหมาก เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี ทันทีที่เจอหน้ากับคู่กรณี นายตั้นและนายต้นพี่ชายตรงเข้ามา ด่าทอต่อว่าจะทำร้ายและเอาคืนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักข่าวที่อยู่บนโรงพัก จนต้องแยกทั้งสองฝ่าย ออกจากกันและสอบปากคำรวมทั้งเจรจาไกล่เกลี่ย เนื่องจาก เป็นคนที่พักอาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน ซึ่งฝ่ายนายนนนท์ยอมรับว่าเป็นฝ่ายทำร้าย นายตั้นจริง สาเหตุเพราะว่าบันดาลโทสะที่นายตั้มไปยืนด่าแม่ตนเองเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมารวมทั้งชอบใช้สายตามองน้องสาวตนเองในทางที่ดูแล้วไม่สู้ดี ซึ่งนายตั้นเองได้โต้เถียงแบะยอมรับว่าได้ไปด่าแม่ของนายนนท์ที่หน้าบ้านจริงส่วนเรื่องที่ใช้สายตามองน้องสาวนั้นตนไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าอยู่ซอยเดียวกันก็ต้องมองกันเป็นธรรมดา ไม่คิดว่าพี่ชายเขาจะนำมาเป็นสาเหตุในการทำร้ายตนในครั้งนี้
หลังให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยเจรจากันนานกว่า 1 ชั่วโมง ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักข่าว ที่พยายาม เกลี้ยกล่อมให้ทั้ง 2 ฝ่าย รอมชอมปรับความเข้าใจจนนายตั้นและนายนนท์ ยอมรับ และไม่ติดใจที่จะเอาเรื่อง ซึ่งฝ่ายนายตั้นเองนั้นเรียกค่าเสียหายที่ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ 10,000 บาท ทางฝ่ายนายนนท์ ได้ต่อรองเหลือ 5,000 บาท นายตั้นยินยอม และไม่ติดใจ จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่นายนนท์จะยกมือไหว้นายตั้น และนายตั้นเองก็ไหว้ตอบ โดยทั้งสองคนได้สวมกอดจับไม้จับมือปรับความเข้าใจกัน และยืนยันว่าจะไม่ติดใจนำมาเป็นเรื่อง ในวันข้างหน้า ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันออกจากโรงพักไปด้วยดี
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี