Connect with us

อาชญากรรม

หลอกออมทอง

Published

on

แห่แจ้งกองปราบฯ โดน บ้านออมทอง“ณัชปภา”หลอกลงทุนทองคำแท่งกำไรงาม สูญกว่า 300 ล้านบาท

เวลา 09.00 น. วันที่ 8 ก.ค.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยยธิน จตุจักร กทม.
ตัวแทนผู้เสียหายประมาณ 20 คน จาก 149 คน เดินทางมาแจ้งความ พงส.บก.ปอศ.กรณีถูกตัวแทนและเจ้าของบริษัทมั่งมีทรัพย์ จำกัด หลอกลงทุนเก็งกำไรทองคำแท่ง มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท
น.ส.ณัชปภา อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทมั่งมีทรัพย์ 2020 เปิดให้ลงทุนเก็งกำไรทองคำแท่ง ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “ณัชปภา า. กับ นางสาวณัชปภา“
กำหนดเปิดรับลงทุนวันละ 300 บาท(นน.) โดยผู้ลงทุนจะได้กำไรต่อ นน.ทองบาทละ 4,000 บาท ภายในระยะเวลา 14-16 วัน แต่ช่วงหลังมีการขยายเวลารับ 18 วัน
ต่อมาวันที่ 25 มิ.ย. แจ้งว่าจะปรับปรุงหลังบ้าน เลื่อนรับโดยจะแจ้งวันรับให้ทราบภายหลัง แต่เจ้าตัวไม่ได้แจ้ง เปิดรับเก็งกำไรทองคำแท่งปกติ หลังจากนั้นปิดเฟซบุ๊กหนีในวันที่ 26 มิ.ย. ไม่สามารถติดต่อได้
เบื้องต้นมีผู้เสียหายเฉพาะในไลน์กลุ่ม มีจำนวน 149 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

น.ส.ฤดีมาศ อายุ 28 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนรู้จัก ณัชปภา ซึ่งเคยทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยาแต่ออกจากงานแล้ว จากเพื่อนๆ บอกต่อๆ กัน ว่าเขาเปิดรับลงทุนเก็งกำไรทองคำแท่ง ให้ผลตอบแทนกำไรงาม จึงเข้าไปดูในเฟซบุ๊กเขาชื่อบัญชี“ณัชปภา ว. กับ นางสาวณัชปภา“ ของเขา สังเกตุดูอยู่ร่วมปี ก็เห็นเขาทำกำไรได้จริง ไม่มีใครต่อว่าเขาโกง จึงทักแมสเซนเจอร์และแอดฯไลน์ ติดต่อสมัครร่วมลงทุนทองคำแท่งกับเขาด้วย
ครั้งแรกลงทุนทองคำ 5 บาท เป็นเงิน 1.5 แสนบาท ครบกำหนด 16 วัน เขาโอนเงินต้นพร้อมกำไรบาทละ 4,000 รวม เป็นเงิน 1.7 แสนบาท
ครั้งที่สองลงทุนทอง 1 บาท เป็นเงิน 3 หมื่นบาท ครบกำหนด 16 วันได้กำไร 4 พันบาท แต่ไม่ถอน เอาต้นทบไปเรื่อยๆ จนเดือน มิ.ย.ลงไปรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 332,000 บาท จะครบกำหนดรับผลตอบแทนวันที่ 1 ก.ค. แต่พอวันที่ 24 มิ.ย. ณัชปภา แจ้งในไลน์กลุ่มว่า ไม่สามารถนำเงินกำไรมาจ่าย ให้กับลูกค้าได้ พร้อมทั้งแจ้งว่าให้ไปเรียกร้องในภายหลัง พร้อมทั้งอัดคลิปชี้แจงว่ากำลังดำเนินการปรับปรุงระบบหลังบ้านอยู่ ก่อนจะปิดเฟซบุ๊กไม่สามารถติดต่อใดๆ ได้ จึงเชื่อว่าถูก ณัชปภา มิจฉาชีพรายนี้หลอกจึงได้ตั้งไลน์กลุ่มรวมผู้เสียหาย เบื้องต้นมีผู้เสียหายจำนวน 149 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 300 ล้านบาท ยังไม่รวมผู้เสียหายคนอื่นๆ ที่ไม่เข้ากลุ่มไลน์อีกจำนวนมาก

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบแล้วน่าจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ทำงานกันเป็นทีมมีแม่ข่าย/ลูกข่าย ก่อนจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป


Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Copyright © todaynews2017.com