นนทบุรี วงจรปิด แม่ค้าส้มตำผวา ถูกเพื่อนบ้านด่ากราด รัวยิงหนังสติ๊กเฉียดศรีษะ
ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ 07.29 น.ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เป็นกล้องวงจรปิดวินาทีที่ผู้ก่อเหตุชื่อว่านายกุ้ง อายุประมาณ 40 ปี ได้ก่อเหตุใช้หนังสติ๊กยิงลูกแก้วใส่ นางวิไลรัตน์ ทองชั่ง อายุ 64 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นร้านขายส้มตำ โดยยิงเข้าไปประมาณ 4-5 ครั้ง ลูกแก้วเฉียดบริเวณศีรษะของป้าวิไลรัตน์และไปถูกกับตู้แช่น้ำอัดลมบุบเสียหาย
โดยภาพจากกล้องวงจรปิด มุมที่ 1 ( ซึ่งเป็นมุมที่อยู่หน้าบ้าน/มีเสียง ) จับภาพชายเสื้อฟ้า กางเกงสีดำ เดินมาจากบริเวณข้างบ้าน ของผู้เสียหาย จากนั้นได้ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้วใส่บ้านของผู้เสียหาย ประมาณ 3-4ครั้ง ในคลิปยังได้ยินเสียงชายคนดังกล่าว พูดขึ้นมาว่า” (ปากดีหรอ ดอกทองช้าง..) และด่ากราดอย่างรัวๆ พร้อมกับยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว เข้าไป ภายในบ้านของผู้เสียหาย รัวๆ จนลูกสาวของผู้เสียหายที่สวมเสื้อสีขาว เดินออกมาพยายามที่จะห้ามและสอบถาม ชายดังคนดังกล่าว โดยเรียกว่า” พี่กุ้ง มีอะไรก็คุยกันดีๆ ” ขณะเดียวกันป้าวิไลรัตน์ ก็ตะโกนด่า ผู้ก่อเหตุด้วยถ้อยคำหยาบคายด้วยเช่นกัน กล้องมุมที่ 2 มีเสียง เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภาย ในร้านค้าซึ่งจะสังเกตเห็นตอนแรกป้าวิไลรัตน์ กำลังย่างไก่ เพื่อเตรียมเปิดร้านขายส้มตำ จากนั้นก็ได้ยินเสียงนายกุ้งพูดอะไรบางอย่าง ป้าวิไลรัตน์จึงตอบกลับไปว่า” อะไรของมึงอีกล่ะ” นายกุ้งก็ตอบกลับว่า”ปากดีนักหรือไง” แล้วก็เป็นเสียงนายกุ้งยิงหนังสติ๊ก ด้วยลูกแก้ว ใส่ป้าวิไลรัตน์เฉียดบริเวณหัว โดยลูกแก้วไปกระทบกับตู้น้ำอัดลม เสียงดังปั้ง จากนั้นในคลิปก็สังเกตเห็นว่าลูกสาวของป้าที่สวมเสื้อสีขาวก็รีบเดินออกมาสอบถามว่า”อะไรพี่กุ้ง” และห้ามปรามไม่ให้ยิงหนังสติ๊กเข้าบ้าน แต่ระหว่างนั้นนายกุ้งและป้าวิไลรัตน์ ก็ด่ากันด้วยคำหยาบคาย กล้องมุมที่ 3 (ไม่มีเสียง)มุมนี้อยู่บริเวณหน้าบ้าน ของป้าวิไลรัตน์ จะเห็นตั้งแต่นายกุ้งเดินออกมาจากบ้านพักของตัวเองซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตรแล้วก็ใช้หนังสติ๊ก ตั้งใจ เข้าไปภายในร้านขายส้มตำ ประมาณ 2-3 ครั้ง
ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของป้าวิไลรัตน์ ทองชั่ง อายุ 64 ปี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายส้มตำไก่ย่างอยู่ภายในซอย งามวงศ์วาน 6 แยก 13 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง ใต้ถุนบ้านทำเป็นร้านขายส้มตำ ถัดจากบ้านทางฝั่งขวามือ เป็นห้องแถว ประมาณ 3 ชั้น ทราบข้อมูล จากป้าวิไลรัตน์ ว่า ผู้ก่อเหตุนายกุ้งพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักแห่งนี้กับครอบครัว โดยช่วงเช้าเวลาประมาณ 7 โมงครึ่ง นายกุ้งเดินผ่านหน้าร้านขายส้มตำของตน ซึ่งตอนนั้นตนกำลังเตรียมเปิดร้าน จู่ๆก็ได้ยินเสียง อะไร บางอย่างกระเด็นเข้ามาภายในร้านอย่างแรง พอหันไปก็เห็นว่านายกุ้ง ถือหนังสติ๊กยิงลูกแก้วเข้ามาภายในร้านตน แล้วตะโกนด่าตน ประมาณว่า “เสือกอะไรเรื่องของกูนักหนา” ป้าจึงตะโกนถามกลับว่าอะไรของมึง นายกุ้งก็ยิ่งยิงหนังสติ๊กลูกแก้วเข้ามาภายในบ้าน โดยเล็งเข้ามาที่ ป้าวิไลรัตน์ ลูกแก้วเฉียด หางคิ้วไปนิดเดียว ลูกแก้วไปกระทบกับตู้แช่น้ำอัดลมเป็นรอยบุบ จากนั้นก็ยิงเข้ามาอีกหลายลูกตนยอมรับเลยว่าไม่พอใจ โมโหนายกุ้งมาก ต่างฝ่ายต่างด่าทอกัน ซึ่งตนก็ยังไม่รู้เลยว่า นายกุ้งด่าตนเรื่องอะไรแต่ตนก็ด่าในกุ้งด้วยคำหยาบคาย เพราะทนไม่ไหวกับการกระทำ ป้าวิไลรัตน์ยังบอกอีกว่าตนไม่รู้เลยว่านายกุ้งมีปัญหาอะไรกับตนแล้วที่นายกุ้งพูดว่า ชอบไปเสือกเรื่องของตนเอง มันคือเรื่องอะไรตนก็ยังไม่รู้
ด้านนางสาวศิรินทิพย์ ทองชั่ง ลูกสาวของป้าวิไลรัตน์ ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ก็บอกกับทีมข่าวว่า นายกุ้งหรือที่ในคลิปตนเรียกว่าพี่กุ้งนั้น ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลย แต่มาช่วงต้นปี จู่ๆ นายกุ้งก็ได้มาเบิ้ลเครื่องรถ จักรยานยนต์ โดยหันตูดรถให้ควัน เข้าไปภายในร้าน และได้นำถังแก๊สขนาดเล็กมาที่หน้าบ้านแล้วจุดไฟ ทำให้คนที่นั่งกินส้มตำอยู่ต่างแตกตื่นตกใจ ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกตัวนายกุ้งไปพูดคุยนายกุ้งก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก พอผ่านมาประมาณครึ่งปี จู่ๆก็เอาหนังสติ๊ก ยิงใส่ร้านส้มตำ โดยเป้าหมายมุ่งไปที่แม่ของตน เพียงคนเดียว ตนพยายามถามในกุ้งหลายครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น หากเกิดความเข้าใจผิดหรืออะไรที่ไม่เข้าใจกันจะได้ปรับความเข้าใจ แต่ในกุ้งก็ไม่ยอมบอกว่า มีเรื่องอะไร ซึ่งตนเอง ก็อยู่กับแม่ตลอด ก็ไม่เคยได้ยินแม่พูดถึงนายกุ้งกับใคร เรื่องนี้ก็ยังข้องใจอยู่เหมือนกัน / แต่มาก กว่า นั้น คือ ความ ปลอด ภัยของ คน ใน ครอบครัว เพราะ ตอนนี้ รู้ สึก กังวล ไม่ รู้ ว่า นาย กุ้งจะมาก่อเหตุอะไรกับที่บ้านตนอีก ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดูแลความปลอดภัย และตรวจปัสสาวะนายกุ้งด้วย
โดยป้าวิไลรัตน์ได้เดินทางไปที่สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายกุ้งอีกครั้ง และครั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายกุ้งให้ถึงที่สุด เพราะตอนนี้ อยู่อย่าง หวาดระแวง ไม่รู้ว่านายกุ้งจะเอาอะไรมายิงตนอีก ส่วนในกุ้งหลังจากที่ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ ไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว และได้มีการสอบถามชาวบ้านก็บอกว่านายกุ้ง ยังไม่กลับมาและนานๆนายกุ้งจะเดินทางมาครั้งหนึ่ง เพื่อมาหาลูกสาวและภรรยาที่บ้านหลังนี้
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี