Connect with us

ภูมิภาค

เจ้าของโฮมสเตย์ ถูกลูกอดีตนักการเมือง งัดบ้าน แถมโดนเยาะเย้ย

Published

on

ชุมพร – เจ้าของโฮมสเตย์ ร้องสื่อ ปมถูกลูก อดีตนักการเมือง งัดบ้านลักทรัพย์ซึ่งมีแม่มาร่วมด้วย แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่าแม่แค่มารับลูกกลับบ้าน ซ้ำหนัก ถูกเยาะเย้ย

ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
ชุมพร – เจ้าของโฮมสเตย์ ร้องสื่อ ปมถูกลูก อดีตนักการเมือง งัดบ้านลักทรัพย์ซึ่งมีแม่มาร่วมด้วย แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่าแม่แค่มารับลูกกลับบ้าน ซ้ำหนัก ถูกเยาะเย้ย

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ 65/2 ม.3 ต.ด่านสวี อ.สวี จังหวัดชุมพร พบนายสุวัฒน์ ฉายาวัฒนา เจ้าของ บ่อคาโฮมสเตย์
จากกรณี หนุ่มใหญ่ใหญ่เจ้าของโฮมสเตย์ แห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ได้ร้องเรียนกับสื่อว่า ถูกลูกของอดีตนักการเมืองท้องถิ่นลักทรัพย์ โดยมีผู้เป็นแม่เข้ามาให้ความช่วยเหลือในขณะที่ผู้ต้องหากำลังลักทรัพย์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำสำนวนอ่อนไม่ตรงไปตรงมา อ้างว่าแม่ของผู้ต้องหานั้นไม่ได้เจตนาเพียงแต่มารับลูกกลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสัมภาษณ์ พูดคุยถึงที่ไปที่มากับ นาย สุวัฒน์ อายุ 60 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดช่วงดึก ของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้เข้ามาลักทรัพย์ โดยมีผู้เป็นแม่สตาร์ทรถเครื่องรออยู่และได้ส่งผ้าผืนนึงให้ผู้ต้องหาห่อของออกมาและพูดกับผู้ต้องหาว่าเร็วๆเดี๋ยวติดคุก และยังพูดกับผู้ต้องหาว่ามองเห็นไหม และยังส่องไฟให้ จากนั้นได้พาผู้ต้องหาออกไป ตนจึงมองว่าผู้เป็นแม่มีส่วนร่วมลักทรัพย์ให้ความช่วยเหลือ ตนจึงได้เข้าไปแจ้งความที่สภ. สวี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน แต่จากการสอบสวน ตนรู้สึกข้องใจในคำบางคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่แจ้งว่าแม่ไม่มีเจตนา ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำดังกล่าว ตนจึงบอกเจ้าหน้าที่ว่าถ้าไม่มีเจตนาทำไมไม่นำทรัพย์มาคืน แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกตนว่า“คุณรู้กฎหมายหรอ” และ ถ่าย ภายหลังในระหว่างที่เจ้าหน้าที่มาถ่ายภาพส่งอัยการก็ได้พูดกับตนว่าจริงจริงแล้วไม่ฟ้องทั้งคู่ยังได้เลย ตนจึงมองว่ามันผิดปกติ มีความเอนเอียง ไม่ตรงไปตรงมา

และพฤติกรรมของผู้ต้องหา ที่ผ่านมานั้น มีพฤติกรรมติดยาเสพติดและเคยถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปบำบัดมาแล้วหลายครั้ง และตนเคยเห็นเวลาดื่มสุราก็จะถือมีดไล่คนอื่นหรือ ดูจากคลิปวิดีโอจะเห็นว่าผู้ต้องหา ถือมีดติดตัวตลอด และผู้ต้องหาคนนี้ก็เป็นน้องชายของผู้ใหญ่บ้าน และพ่อก็เคยเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ส่วนผู้เป็นแม่ก็มีตำแหน่งเป็นประธานอสม. ตนจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม กลัวว่าจะมีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซง

ส่วนเรื่องของความเสียหายนั้นไม่มากประมาณหลักพันกว่าบาท แต่ตนทน พฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้แล้วที่เคยทราบมาผู้ต้องหาคนดังกล่าวนี้ก็เคยไปขโมยบ้านคนอื่นมาแล้ว แต่พ่อแม่ก็คอยเคลียร์ให้ตลอด เหมือนเป็นการส่งเสริม ตนเกรงว่าจะเป็นภัยต่อผู้อื่น และในเหตุการณ์ครั้งนี้ทางฝั่งคู่กรณีไม่เคยมาไกล่เกลี่ยหรือพูดคุยอะไรกับตนเลย แถมยังมาเยาะเย้ยตนอีก ประมาณว่าทำอะไรพวกเค้าไม่ได้

ทั้งนี้ตนอยากให้เจ้าที่ ที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดให้ความเป็นธรรมและตรงไปตรงมา เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง อย่างถูกต้อง ถ้าไม่เป็นไปตามกฎหมาย บ้านเมืองและบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร
พ.ต.ท. สมพงษ์ ณ สงขลา รอง ผกก สอบสวน สภ สวี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รวมร่วมหลักฐานส่งฟ้องไปแล้วขณะนี้อยู่ในอำนาจของอัยการ จากการตรวจสองได้พบว่าผู้กระทำความผิดเป็นผู้ป่วยจิตเวชและมีบัตรของโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ และผู้ปกครองของผู้กระทำความผิดไม่มีเจตนาเข้าร่วมกระทำความผิด จึงได้ส่งฟ้องไปคนเดียว พนักงานสอบสวนได้ทำตามหน้าที่และไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและก็ไม่ได้รู้สนิทสนมกับผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด


Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Copyright © todaynews2017.com