นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
สัตวบาลศูนย์พิกุลทองแนะเกษตรกรเลี้ยงแพะชายแดนใต้ หันมาทำสบู่นมแพะโดยที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีและชำระร่างกายได้แทรกซึมลึกทุกอณู
แพะถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่นิยมเลี้ยงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่อาศัยในพื้นที่เป็นคนไทยอิสลาม จึงทำให้แพะเป็นที่ต้องการเพราะใช้ประกอบพิธีทางศาสนาและเพื่อการบริโภคในครัวเรือน เนื่องจากแพะเป็นสัตว์เลี้ยงง่ายมีค่าใช้จ่ายไม่สูง สามารถหากินใบไม้ใบหญ้าได้เอง ถึงแม้จะตัวเล็กแต่ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ แข็งแรงไม่ติดโรคง่ายเหมือนหมูหรือไก่ อีกทั้งยังให้ผลผลิตเนื้อและนม เนื้อแพะเป็นอาหารที่มีโปรตีนที่ย่อยได้ในระดับสูงกว่าเนื้อวัว หมูและไก่ มีไขมันในระดับต่ำกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ นมแพะมีคุณค่าทางอาหารสูงใกล้เคียงหรือสูงกว่านมโค กระบือและมนุษย์ โมเลกุลไขมันมีขนาดเล็ก ทำให้ง่ายต่อการย่อยและการดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร สามารถนำมาใช้บริโภคแทนนมมนุษย์ได้ดีกว่านมโคและนมกระบือ
และด้วยปัจจัยที่มีการเลี้ยงแพะอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่ แทนที่จะเลี้ยงแพะเพื่อเอาเนื้อหรือนม วางจำหน่ายตามท้องตลาดที่มีราคาไม่สูงมากนัก และเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่านมแพะให้มีราคาที่สูงขึ้น ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยนายหริชาญ หมวกสกุล เจ้าพนักงานสัตวบาล ร่วมกับปศุสัตว์ จ.นราธิวาส จึงได้เล็งเห็นอนาคตข้างหน้าเพื่อเป็นรายได้เสริมของเกษตรที่เลี้ยงแพะอยู่แล้ว หันมาทำสบู่นมแพะซึ่งไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด และได้อบรมเกษตรกรมาแล้วหลายรุ่นจนประสบความสำเร็จ
ส่วนขั้นตอนการทำสบู่นมแพะไม่ยุ่งยาก โดยเลือกแพะแม่ลูกอ่อน แล้วทำความสะอาดเต้านมแพะ ใช้มือ 2 ข้างบีบเต้านมแพะให้น้ำนมจากเต้าไหลหรือหยดลงในถาด จนกระทั่งเต้านมแพะที่รู้สึกเต็มกำมือเริ่มหดหรือเหี่ยวลง ซึ่งแต่ละตัวจะได้ปริมาณนมแพะที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความมบูรณ์ของแพะแต่ละตัว แต่อย่างรีดหรือบีบนมแพะจนหมดเต้า เพราะส่วนที่เหลือน้ำนมแพะจะต้องให้ลูกแพะดื่มหรือกิน ในส่วนของปริมาณน้ำนมแพะที่สูญเสียจากที่เรารีดหรือบีบ อาจจะทำให้ลูกแพะไม่สามารถดูดนมรับประทานได้เต็มที่หรือไม่อิ่ม เราต้องซื้อนมผงมาชงให้ลูกแพะและป้อนนมให้ลูกแพะแต่ละวันดูดในทุกวัน ในการทดแทนนมแพะจากแม่ที่เรารีดหรือบีบบออกจากเต้า ไม่เช่นนั้นลูกแพะจะมีร่างกายไม่สมบูรณ์และโตช้า และแพะที่เรารีดหรือบีบนมแพะออกจากเต้า เราสามารถรีดได้ในระยะเวลาเพียง 3 ถึง 4 เดือนเท่านั้น ซึ่งเป็นวัฎจักรของการรีดนมแพะแม่ลูกอ่อนในแต่ละตัว โดยที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีและชำระร่างกายได้แทรกซึมลึกทุกอณู
เมื่อได้นมแพะตามต้องการแล้ว เราต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการทำสบู่แบบง่ายๆ คือ เบสสบู่กลีเซอรีน น้ำนมแพะ น้ำหอม เอทิลแอลกอฮอล์ หม้อ กระทะ เตาแก๊ส เมื่อทุกอย่างพร้อม เราจุดเตาไฟอ่อนๆเอากระทะใส่น้ำต้มพร้อมทั้งนำเบสสบู่กลีเซอรีนใส่หม้อวางในกระทะหรือตุ๋นให้ละลาย จากนั้นใส่น้ำหอม น้ำนมแพะข้นให้เข้ากันประมาณ 30 นาทีและฉีดเอทิลแอลกอฮอล์ลงไปในหม้อ เพื่อเป็นการป้องกันส่วนผสมต่างๆภายในหม้อกระเด็นออกมา
เมื่อส่วนผสมของการทำสบู่นมแพะได้เป็นที่เรียบร้อยตามต้องการ เราเอาหม้อขึ้นจากเตาเทใส่กระบวย แล้วเทใส่ลงในแม่พิมพ์หรือบล็อบซึ่งจุดนี้ต้องระมัดระวัง อย่าให้เกิดการสั่นไหวเพราะจะทำให้สบู่ที่เราเทลงในแม่พิมพ์หรือบล็อบ เป็นคลื่นหรือผิวด้านหน้าเมื่อแห้งจะไม่ท่ากันหรือสวยงามตามต้องการ โดยขั้นตอนนี้ต้องทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะเอาสบู่ออกจากแม่พิมพ์หรือบล็อบ มาทำการซีลใส่พลาสติกใสโดยรอบก้อนสบู่ ก่อนที่จะแปะยี่ห้อเป็นการการันตีถึงคุณภาพ
นายหริชาญ หมวกสกุล เจ้าพนักงานสัตวบาล ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า การทำสบู่นมแพะมีการต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับนมแพะ ปกตินมแพะเราจะขายอยู่ที่ 200 ซี.ซี. ประมาณ 15 บาท ถ้ามาทำนมแพะจะเพิ่มมูลค่าในนมแพะประมาณ 50 ซี.ซี. จะเพิ่มมูลค่าประมาณ 700 ถึง 800 บาท จากเดิมที่ได้ 15 บาท ขึ้นอยู่กับสบู่ของเราจะเพิ่มมูลค่าขึ้นมาอีกขึ้นอยู่ที่แพ็คกิ้งใส่แพ็คกิ้งให้สวยงามขึ้นมา มูลค่าจะเพิ่มก้อนละ 100 บาทก็มี สรรพคุณของนมแพะมีหลายอย่าง วิตามินซีสูง มันมีเครื่องประทินผิวสมัยโบราณ ซึ่งเด่นที่สุดของนมแพะมันมีโมเลกุลที่ละเอียดเป็นเครื่องสำอางมันจะไม่อุดตันรูขุมขน มันจะดูดซึมไปสู่ร่างกายได้ลึกกว่า
ซึ่งสบู่นมแพะของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีการวางจำหน่ายสินค้าภายในศูนย์ฯในเวลาราชการ เพียงราคาก้อนละ 35 บาท และ 40 บาท ขึ้นอยู่กับลักษณะรูปลักษณ์และขนาดปริมาณของสบู่แต่ละก้อน
///////////////////////////// 25 สิงหาคม 2567