รองนายกเทศมนตรีบางกรวย พร้อมด้วย เจ้าที่ชลประทาน และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ เหตุผนังกั้นน้ำ เจ้าพระยา ถล่มยาว 70 เมตร

นนทบุรี รองนายกเทศมนตรีบางกรวยพร้อมเจ้าหน้าที่กรมชลประทานลงตรวจพื้นที่เขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาหลังวัดลุ่มถล่มยาว 70 เมตร

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2567 ที่วัดค้างควา ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายสุรสิทธิ์ วิชินโจน์จรัล รองนายกเทศมนตรีเมืองบางกรวยพร้อมเจ้าหน้าที่กรมชลประทานลงพื้นที่ตรวจคันกั้นน้ำริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่บางกรวยเพื่ออุดรอยแตกร้าวของเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกรงประชาชนได้รับความเดือดร้อน

นายสุรสิทธิ์ วิชินโจน์จรัล รองนายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย กล่าวว่า เขื่อนคันดินที่กรมชลประทานทำให้ เขื่อนตัวนี้สามารถกันน้ำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ทำไว้ฝั่งบางกรวย แต่ฝั่งบางไผ่ทางกรมชลก็ได้ทำคันดินไว้เหมือนกันและไล่บิดรูรั่ว ตอนนี้ถ้าเขื่อนไหนที่ทางกรมชลทำไว้แล้วค่อนข้างที่จะกันน้ำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ น้ำไม่เข้า มีความแข็งแรงสามารถสู้น้ำได้ ส่วนฝั่งไหนที่มีรูรั่ว เดี๋ยวทางกรมชลประทานจะเข้ามาอุดรูให้ ซึ่งทั้ง2ฝั่งต้องทำคู่กัน เพื่อไม่ให้น้ำเข้าคลองบางกรวย ซึ่งตอนนี้ที่ได้ทำน้ำในบางกรวยค่อนข้างที่จะต่างจากน้ำข้างนอกแล้วควบคุมน้ำได้แล้วประมาน 1 เมตร ซึ่งเมื่อก่อนคุมไม่ได้ ตอนนี้ค่อนข้างสบายใจว่าน้ำไม่หน้าจะเป็นที่กังวนมาก วันนี้ก็เข้ามาดูว่ามีรูรั่วตรงไหนบ้าง ซึ่งมีรูรั่วเล็กๆน้อยๆเท่านั้น อยากฝากบอกชาวบ้าน ใครที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำต้องทำใจก่อน บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำ พวกท่านก็คงต้องเก็บของ ถ้ายังไงเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่มระดับน้ำก็จะเพิ่มขึ้นอีก อาจจะ 40-80 เซนติเมตร แต่ถ้าพ่อแม่พี่น้องที่อยู่หลังแนวคันกั้นน้ำจะไม่หน้าจะกังวนไง

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี