Connect with us

อาชญากรรม

ชุมพร – พ่อเฒ่า65 ลงวางอวนหาปลาไปให้แมวจมน้ำทะเล ดับ พบบาดแผลฉกรรจ์บนหัวธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00 น ร.ต.อ.บรรจง ศักดิ์พิมล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากน้ำชุมพร ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย บริเวณทะเล บ้านผาแดง หมู่ที่ 1 ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังหน่วย กู้ชีพ กู้ภัย รักศิลธรรม ปากน้ำชุมพร และแพทย์ จากรพ.ปากน้ำชุมพร เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบร่างเป็นชายที่ลงหาปลาไปว่างอวนเพื่อหาปลาในช่วงนี้มีพายุฝนเข้ามาในพื้นที่จังหวัดชุมพรจึงทำให้อากาศเย็นและมีคลื่นลมแรง ชายคนดังกล่าวเกิดพลาดเสียหลักหกล้มหัวฟาดพื้นหินที่เป็กำแพงันคลื่น ความลึกของน้ำประมาณ 80 ซม. อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้จากการสอบถามชาวบ้านที่มามุงดู เล่าว่า ผู้เสียชีวิต ออกมาวางอวนหาปลา เห็นมาว่างอวนในช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ไม่ได้คุยอะไรกันมารู้อีกที่ที่ลูกๆของผู้เสียชีวิตออกตามหาเพราะว่าพ่อ กินข้าวเที่ยงแล้วก็ออกมาจากบ้านมาที่เกิดเหตุเพื่อที่จะเก็บอวนที่วางหาปลาเพื่อที่จะนำไปเลี้ยงแมวที่บ้าน โดยออกมาหาไปให้แมวเป็นประจำ แต่ก็มาเป็นเป็นศพลอยน้ำใกล้กับริมตลิ่งที่เป็นกำแพงก้นคลื่นที่ทำด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ว่างเรียงกันเป็นแนว(ติ๋ง) ลูกชายผู้เสียชีวิต เป็นช่างศูนย์โต้โยต้า เล่าว่า คุณพ่อออกมามาวางอวนจับปลาเพื่อที่จะนำปลา/ไปเลี้ยงแมวที่บ้าน ที่บ้านเลี้ยงมาไว้หลายตัว พ่อออกมาจากบ้านในต้อนเที่ยวของวันนี้และเห็นว่าในเวลา 15.00 น แล้วยังไม่กลับบ้านจึงได้ออกมาตามตัวเพื่อที่จะพากลับบ้านแต่ก็มาเสียชีวิต และได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ร.ต.อ.บรรจง ศักดิ์พิมล ได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งสอบถามพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ อย่างละเอียด ทราบชื่อผู้เสียชีวิต ภายหลัง นาย นิยม จิตธากร อายุ 65 ปี ชาว ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ออกมาหาปลาโดยวางอวนน้ำตื้น ในความลึก ไม่ถึง 120 ซม แต่ขณะที่กำลังจะมาเก็บกู้อวนอาจเกิดพลาดเสียหลักหกล้มหัวฟาดพื้นหิน กันคลื่นเสียชีวิตก่อนที่จะเก็บกู้อวนขึ้นมาเพราะในที่เกิดเหตุเห็นแต่เสื้อผ้าและ กาละมังสีแดงที่ใช้เป็นภาชนะขนอวนมา และพบบาดแผล ฉกรรจ์บริเวณศีรษะ และญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต มอบศพให้ไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

Published

on


Up Next

มุกดาหาร กักกันสัตว์ ร่วมกับหน่วยความมั่นคงฝังกลบทำลายซากสุกรแซ่แข็งมุกดาหาร- ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ร่วมกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ฝังกลบทำลายซากสุกรแซ่แข็ง (หนังสุกร ) จำนวน 860 กก. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดสัตว์11 10 67 เวลา 10.30 น. ที่บริเวณด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายณรงค์ รัตนตรัยวงศ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร นายสัตวแพทย์ต่อพงศ์ ประเสริฐสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับด่านตรวจประมงมุกดาหาร, ด่านตรวจพืชมุกดาหาร, กองร้อยทหารพรานที่ 2105, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร, ด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร และด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศจังหวัดมุกดาหาร ร่วมดำเนินการทำลายของกลาง ซากสุกรแช่แข็ง(หนังสุกร) จำนวน 860 กก.สืบเนื่องจากคดีเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 67 มีความผิดตามมาตรา 22, 31, 34 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 เนื่องจากซากสุกรดังกล่าวไม่มีเอกสารรับรองแหล่งที่มา หรือรับรองสุขศาสตร์ซากสัตว์จากสัตวแพทย์ จึงสงสัยว่าซากสัตว์ดังกล่าวได้มาจากสัตว์ที่เป็นโรคระบาดหรือเป็นพาหะของโรคระบาด ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคระบาดสัตว์โดยจังหวัดมุกดาหารได้ประกาศเป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ ชนิดอหิวาต์ แอฟริกาในสุกร (ASF) จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 13,40 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 สั่งให้ทำลายของกลางดังกล่าวโดยวิธีฝังกลบ พร้อมด้วยพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดสัตว์อีกด้วย..**อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร 081-5449094

Don't Miss

ปทุมธานี มทร.ธัญบุรี ชี้แจงเหตุการณ์เพลิงไหม้ รถรับส่งในศูนย์รังสิต ยืนยันเป็นรถประกอบใหม่ และบริษัทประกันภัยรับผิดชอบค่าเสียหายวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ศูนย์รังสิต ชี้แจงเหตุการณ์เพลิงไหม้ รถรับส่งในศูนย์รังสิต ยืนยันเป็นรถประกอบใหม่ และบริษัทประกันภัยรับผิดชอบค่าเสียหายโดยเหตุการณ์เพลิงไหม้รถรับส่ง ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ศูนย์รังสิต ในช่วงเช้าของวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ซึ่งส่งผลให้รถมินิบัสจำนวน 2 คัน และรถตู้จำนวน 1 คัน เสียหายทั้งหมด ซึ่งได้สร้างความกังวลและข้อสงสัยแก่ผู้ที่ทราบข่าวเหตุการณ์ ทางมหาวิทยาลัยขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยรถดังกล่าวเป็นรถประกอบใหม่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทผู้ได้รับสัมปทานการให้บริการรถรับส่งแก่มหาวิทยาลัย โดยทางบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าเสียหาย โดยไม่กระทบต่อมหาวิทยาลัย และที่สำคัญรถดังกล่าว เกิดเหตุในขณะที่กำลังชาร์จไฟ ซึ่งไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บขณะที่เกิดเหตุ และบริษัทที่ได้รับสัมปทานได้เข้าร่วมตรวจสอบแล้วคณะผู้บริหาร ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุภายในวิทยาเขตรังสิต หลังได้รับแจ้งเหตุการณ์เพลิงไหม้ เพื่อร่วมตรวจสอบสถานการณ์และติดตามการดำเนินการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างละเอียด พร้อมทั้งเร่งดำเนินการปรับปรุงและดูแลระบบไฟฟ้าภายในพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีกรถที่เกิดเหตุดังกล่าว เป็นรถประกอบใหม่ มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีประกันภัยคุ้มครองครบถ้วน โดยอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทที่ได้รับสัมปทานให้บริการรถรับส่งแก่มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยได้เข้ามาตรวจสอบและยืนยันว่าจะรับผิดชอบค่าเสียหาย ซึ่งจะไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัย และในประเด็นที่มีผู้กล่าวอ้างว่า เหตุการณ์ไฟไหม้นี้ เกิดจากการชาร์จและระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้าของแบตเตอรี่ ซึ่ง มทร.ธัญบุรี ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทุกคน โดยจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดไฟไหม้จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาให้ข้อมูลในส่วนของการให้บริการรถรับส่งแก่นักศึกษาและบุคลากร มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการร่วมจัดหารถสำรองเพื่อให้บริการแทนรถที่เกิดเหตุ โดยจะไม่ให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง ที่อาจกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน ทั้งนี้มหาวิทยาลัยมีความกังวลใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่าจะดำเนินการแก้ไขและป้องกันอย่างเต็มที่ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของนักศึกษาและบุคลากร โดยอุบัติเหตุดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบหรือก่อเกิดอันตรายต่อนักศึกษาและบุคลากรแต่อย่างใด ตามการรายงานเหตุ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ มทร.ธัญบุรี ยังได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยภายในวิทยาเขตรังสิตอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่จอดรถและจุดที่มีการใช้งานระบบไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อป้องกันเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ และต้องตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือผู้ใช้บริการให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบและแจ้งเหตุทันทีหากพบสิ่งผิดปกติทั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ตำรวจ หน่วยกู้ภัย บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมถึงนักศึกษาและบุคลากรทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และขอยืนยันว่ามหาวิทยาลัยจะให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของนักศึกษา บุคลากร และทุกฝ่ายที่ใช้บริการภายในวิทยาเขต ขอยืนยันว่าจะดำเนินการแก้ไขและป้องกันอย่างเต็มที่ และจะชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อได้รับผลการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน.

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Copyright © todaynews2017.com