เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 67 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณชุมชนซอยทานสัมฤทธิ์ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากน.ส.บี (นามสมมุติ) ชาวบ้านในพื้นที่ ได้รับความเดือดร้อนจากนายคามิน หรือนายต่อ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อาชีพรปภ. เพื่อนบ้านในซอยที่มีอาการคลุ้มคลั่ง และทุบฝาบ้าน ทำให้ชาวบ้านในซอยต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพชัด นายต่อเดินกร่างหาเรื่องเพื่อนบ้านหวิดปะทะ จะเห็นว่านายต่อ ก่อเหตุอาละวาดเสียงดัง
1.) วันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา วงจรปิดจับภาพได้ขณะที่นายต่อ ได้ถือมีด ชี้จี้ไปที่ไรเดอร์ที่ขับขี่เข้ามาส่งของภายในหมู่บ้าน โดยนายต่อไม่ได้สวมเสื้อ ใส่กางเกงสีดำ ไม่ใส่รองเท้า ท่าทางเหมือนคนคลุ้มคลั่ง
2.) วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา วงจรปิดมุมนี้จะเห็นว่านายต่อ สวมเสื้อสีขาว ตะโกนโวยวายอยู่ภายในซอยบ้าน ซึ่งเป็นช่วงเวลากลางดึกขณะที่ชาวบ้านกำลังหลับนอน
3.) วันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา นายต่อไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงสีดำ ไม่ใส่รองเท้า ตะโกนโวยวายด่าชาวบ้านถามว่ามีอะไรนักหนา โดยที่มือถือเหล็ก หรืออาวุธบางอย่าง เดินวนไปวนมาในหมู่บ้าน
4.) นี่เป็นวงจรปิดล่าสุด จับภาพได้เมื่อเวลา 22.56 น. ของวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นภาพเพื่อนบ้านกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่หน้าบ้าน ปรากฏว่านายต่อ กลับเข้าบ้านมาพอดี แล้วก็เดินปรี่เข้ามาลักษณะหาเรื่องกลุ่มชาวบ้านที่นั่งอยู่หน้าบ้าน โดยนายต่อได้ถามว่า “ทำไม เมื่อวานนี้มีปัญหาอะไร” ต่อมา ชายเสื้อดำที่นั่งอยู่ในวง ก็ลุกขึ้นมาและบอกว่า “พี่ต่อ อย่ามาหาเรื่อง” จากนั้นทุกคนก็รีบเข้าไปช่วยเจรจาห้ามปราม ไม่ให้เกิดการปะทะกัน
หลังจากทราบเรื่องทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุทันที ปรากฏว่านายต่อ หรือนายคามิน (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ได้เข้าบ้านปิดเงียบ ไม่มีเสียงโวยวายใดๆ โดยมีชาวบ้าน กลุ่มที่ถูกนายต่อ ตะโกนด่าท้าทาย ยังนั่งอยู่ที่เดิม หนึ่งในนั้นคือน.ส.บี (นามสมมุติ) เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ เกือบ 23.00 น. ที่ผ่านมา นายต่อกลับมาจากทำงานพอดี และที่ตะโกนด่าท้าทายนั้น คือตะโกนด่าตน เพราะเมื่อคืนนายต่อ ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งและทุบฝาบ้าน ตั้งแต่ช่วงเวลาเที่ยงคืนจนถึงเช้า ทำให้ตนนอนไม่หลับ และไม่ใช่แค่ตน ชาวบ้านทุกคนในละแวกนี้ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกัน เมื่อคืนนี้ ตนจึงตะโกนด่า ประมาณว่า “มึงจะทุบอะไรนักหนา” คาดว่านายต่อน่าจะโกรธ ที่ได้ยินตนพูดแบบนั้น จึงได้มาหาเรื่อง
น.ส.บี ยังบอกอีกว่า ตนและครอบครัวรวมถึงชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ อดทนกับนายต่อมานานเกือบ 1 ปีแล้ว เพราะนายต่อ มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด มักเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เดินพูดคุยคนเดียว ตะโกนด่าชาวบ้าน โดยไม่ทราบสาเหตุ หาเรื่องคนที่ขับขี่รถจยย.ผ่านไปผ่านมา ล่าสุดก็ใช้มีดจี้คอไรเดอร์จนต้องขับขี่รถจยย.หลบหนี จนในซอยบ้าน ห้ามไม่ให้เด็กเล็กเดินเล่นเลยเพราะกลัวจะได้รับอันตราย และช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ในต่อมีอาการหนักขึ้น โดยได้ทุบผนังบ้านของตัวเอง ตั้งแต่ช่วงตี 1 จนถึงเช้า บางครั้งก็ทุบตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น ทำให้ชาวบ้านแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ก่อนหน้านี้เคยแจ้งทีมข่าวลงพื้นที่มาทำข่าวและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่มาตรวจสอบแล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่นำตัวนายต่อไปทำประวัติแล้วก็ส่งกลับมา ทั้งๆที่นายต่อก็ยอมรับว่าตัวเองนั้นเสพยาเสพติด ครั้งนี้ตนจึงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง และตรวจสารเสพติดในร่างกายของนายต่อ และนำนายต่อไปบำบัดให้หาย จากนั้นค่อยปล่อยออกมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป เพราะพฤติกรรมของนายต่อ น่าจะเป็นภัยต่อสังคมมากๆ
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต
ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี